โย่ววววววววววว ,,
โผล่หัวมาแล้วครับ หลังจากหลบหลีกม๊อบและความวุ่นวาย
ตอนนี้ หนีจากเมืองกรุง มาอยู่ที่บ้านมาม๊าครับ
ผมทรง nerd ออกแบบโดยเตงนิ่ม ^^
ได้หยุดงานสองวัน แต่ไม่ได้หมายความว่า ได้หยุดเฉยๆนะ
ยังคงต้องทำงาน ผ่าน aircard ที่ความเร็วไม่เท่าที่ทำงาน
สร้างความหงุดหงิดให้ไม่น้อยเลยทีเดียวว
ก็ได้แต่หวังว่า ประเทศชาติจะสงบ โดยไม่เสียเลือดคนไทยอีก
จบเรื่องร้อน ประเด็นการเมือง มาเรื่องของเจย์ดีกว่า
blog นี้ มีสองเรื่องครับ เริ่มที่เรื่องแรก
"สวนสยาม : Siam Park City" (May 09, 10)
ครั้งนี้ที่ไป เป็นครั้งที่สองครับ ครั้งแรกไปตอนปิดเทอมป.6
นานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก จนลืมไปเลย 555
ไปครั้งนี้ แน่นอนว่า ไปกับ "เตงนิ่ม" (ก็คือคนในใจเจย์แหละครับ อิอิ)
เนื่องจากเพื่อนเตงนิ่ม นัดเจอกัน ก็เลยตามเตงนิ่มไปด้วยยย
เดินเข้ามาไม่ไกล จะเจอกับนี่ครับ Log Flume
Log Flume ก็คือ ล่องแก่งนั่นแหละครับ
คนต่อคิวยาวมากกกกกกกกก
ไปถึงตอน 11โมงกว่าๆได้
จ่ายค่าตั๋วไป 300 บาทต่อคน แต่เจย์หาได้เล่นอะไรซักอย่าง
เดินตากแดดเหงื่อท่วมไปถึงซอกตูดเลยทีเดียว (ตูดชุ่มมม)
เดินถ่ายรูปได้ไม่เท่าไหร่ ไม่ไหวจะเคลียร์เลยจริงๆ
ส่วนนี่ รถไฟเหาะ สีสวยเนอะ แต่ไม่เล่น 555
เตงนิ่มกับเพื่อนๆก็เล่นกันไม่กี่อย่าง (แต่ไม่กี่อย่างที่เล่น ก็คุ้มอยู่นะ)
ซักเกือบสี่โมงเย็น ก็ออกไปหาอะไรทานกัน
ก็ตกลงไปทานกันที่ร้าน "Le Pla Daak" อ่านว่า เลอ ปลาแดก ครับ
เป็นร้านอาหารที่น่ารักดีนะครับ ร้านจะตกแต่งแบบย้อยยุคหน่อย
ส่วนเรื่องรสชาติอาหาร อร่อยมากกกกกกกกก เลยครับ
เจย์กินข้าวไปตั้งเยอะแหนะ อร๊อยอร่อยหล่ะ
นี่เป็น Menu ของร้านครับ
ทางร้านจะตกแต่งด้วยของเก่าๆ อย่าโทรศัพท์เก่านี้ครับ
ทางร้านมีหมี่มาให้เป็นออเดิฟ เสริฟ์บนจานสังกะสีใบเล็ก รองใบตอง
แล้วปิดท้ายก็มีเสริฟ์ขนมหวานถ้วยเล็กๆให้ทานด้วย
ส่วนอาหารที่เสริฟ์ ก็จะเสริฟ์บนจานสังกะสี รองใบตอง
ให้ความรุสึกแปลกดีครับ ตื่นเต้นดี ^^
แต่เจย์ลืมรูปไว้ที่ laptop อีกเครื่อง เลยไม่มีรุปอาหารให้ดูนะครับ
ทานเสร็จ ก็แยกย้ายกลับบ้าน
ขอบคุณเพื่อนเตงนิ่มที่ขับรถมารับด้วยนะครับ
เรื่องที่สอง "งานแต่งเพื่อนหลิน" (May 16, 10)
หลินเป็นเพื่อนที่เรียกันมาตั้งแต่ประถมจนถึงม.3ครับ
แล้วเราก็แยกย้ายกันไป เป็นเพื่อนรักคนนึงเลย
ลงทุนให้เตงนิ่มพาไปซื้อเสื้อผ้า เพื่องานเพื่อนเลยนะเนี่ย
หลินจองคิวเจย์ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ด้วยเหตุการณ์ไม่สงบ
ทำให้เกือบไม่ได้ไปงานเพื่อนอีกแล้ว (แต่ก็ไปนะ)
เจย์ไม่ค่อยได้ไปงานใครเท่าไหร่เลย โดนเพื่อนเลิกคบหมดละ 555
ส่วนเตงนิ่มก็ไม่ได้ไปงานนี้ด้วยครับ ไปเป็นหนุ่มโสดในงาน
แต่โทรรายงานตลอดนะ (ส่วนเตงนิ่มไม่รับโทรศัพท์ T^T)
ไปถึงที่งานตอนทุ่มนิดๆ ไปถึงก็ตั้งหน้าตั้งตากัดเพื่อน
ก็นะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน กัดให้หายคิดถึงหน่อย อิอิ
ไปดูรูปเลยแล้วกันครับ เพราะไม่รุจะบรรยายอะไร แหะๆๆ
(รูปงานแต่ง มาจากกล้องเพื่อนและพี่ เจย์ไม่ได้เอาไปครับ)
ดูเจ้าสาวมันลั๊นลามากครับ 555
เริ่มปลดไทด์ เพราะร้อนมากกกก
เจ้าสาวบอกว่า ขอสอง 555
เพื่อนๆเฮฮา หัวเราะอะไรกันไม่รุ เจย์ลืม - - "
P.S.
- บ้านเมืองไม่สงบ ไม่ดีเลย
- ยิ่งแย่ใหญ่ที่ คนไทยฆ่ากันเอง
- สวดมนต์ทุกคืน และขอทุกคืนให้ประเทศชาติสงบสุข
- อย่าถามเจย์นะครับ ว่าเจย์สีอะไร
- เจย์เป็นแค่ คนไทย ที่รักชาติไทย และรักพระมหากษัตริย์
- ไปเที่ยวสวนสยาม ร้อนแต่ก็มีความสุข
- เพราะไปกับเตงนิ่มของเค้า >.<
- เค้ารักเตงนิ่มที่สุดเล้ยยยยยยยยย
- ถ้าได้มาอ่าน ยิ้มด้วยนะ อิอิ
- ดีใจกับเพื่อนหลินด้วย
- เจอเพื่อนๆ สนุกดี ได้คุยอะไรกันเยอะแยะเลย
- บางคนนี่ ไม่ได้เจอกันน๊านนานนนนนน
- เจออีกที เห้ยยยย แทบลืม 555
- ตอนนี้ เจย์ซื้อคอนโดของตัวเองแล้วนะครับ
- ขอบคุณปาป๊า สำหรับเงินดาวน์และหลายๆอย่างครับ
- ขอบคุณมาม๊ากับเจ๊ สำหรับคำแนะนำครับ
- ขอบคุณเตงนิ่ม ที่ช่วยเป็นธุระให้หลายอย่างนะ ^^
- ต่อจากนี้ ก็ตั้งใจผ่อนหล่ะ 555 อ้อ รอซื้อ TV ใหม่ด้วย
- เพิ่งลบ friend list ใน facebook มา
- เหตุเพราะ ไปไล่ดู ไม่รู้จักทั้งนั้นเลย
- ไม่เคยคุยกันอีกตะหาก - -"
- แต่ไม่รุว่าเผลอลบเพื่อนไปบ้างรึเปล่า
- ถ้าลบเพื่อนคนไหนไป รบกวนแอดมาใหม่ละกันนะครับ
- เพราะตั้งใจจะรบคนที่ไม่เคยคุยกัน และไม่รุจักกัน
- นอกนั้น เค้าไม่ตั้งใจ กระซิกๆ อภัยให้เค้าด้วย
- หยุดงาน May 17-18
- แล้ว 19 นี้จะได้เข้า office ไหม
- อยากหนีไปตีกอล์ฟซะจริง
- แต่ติดว่าต้องทำงานอยู่ที่บ้าน แง๊ๆๆ
- ไปไหนก็ไม่ได้ ทำงานก็ลำบาก โห่ยยยยยย
- คิดถึงเตงนิ่มจัง
- วางแผนไปหาเตงนิ่มดีกว่า อิอิ
- ลาด้วยภาพนี้ครับ จากหนอนน้อยเช่นเดิมครับผม
Monday, May 17, 2010
Wednesday, April 21, 2010
Jay D3viL:: อัมพวา สุ1000 ในช่วงเทศกาลสาดดดด
โย่ววววว สาดดดดดดดดดดด,,
(สาดน้ำนะ ไม่ใช่คำไม่สุภาพ อิอิ)
คนข้างๆ ไม่ชอบออกสื่อ แต่ขอเจย์บอกรักออกสื่อหน่อย
"เค้ารักเตงน๊า" ฮิ้ววววววว
สาดช้าไปไหม หมดเทศกาลไปอาทิตย์นึงแล้ว - -"
แหะๆๆ ก็เรื่องที่จะอัพใน blog น้อยๆวันนี้
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเทศกาลเปียกที่ผ่านมาครับ
April 10-11, 10
เจย์มีโอกาสได้ไปเที่ยวอัมพวาเมื่อ Apr 10-11 ครับ
ไปค้างหนึ่งคืนถ้วน สมาชิกรวม 5 คน
มีเจย์ คนข้างๆ เพื่อนและน้องของเพื่อนของคนข้างๆ (งงจัง)
แต่รูปที่ลง มีรูปเจย์คนเดียว กร๊ากกกกกกกกกก
สนุกดีนะครับ ไม่เคยได้ไปค้างอ้างแรมตรงริมคลอง
รุสึก หนวกหูเสียงเรือยนต์นิดหน่อย (สนุกเหรอ 555)
(เพราะที่พักเปิดห้องมา ก็คลองเลย - -")
ขอเล่าแต่แรกเริ่มเดินทางเลยนะครับ
ออกจากกทม.กันตอน 10 โมงกว่าๆ
มุ่งหน้าไปหาร้านอาหาร "Bangkok Sea View"
ก่อนไปอัมพวา ได้บอกคนข้างๆไปแล้ว ว่าไม่ลงเรือนะ
กลัวน้ำ กลัวเรือ ลงไม่ได้ กลัวมากกกกกกกกก
แต่พอขึ้นรถออกเดินทาง คนข้างๆบอกเราจะไปร้านนี้นะคะ
ต้องนั่งเรือไปเท่านั้น!! ฟังจบ ในหัวประมวลผล
ยังไงดีหล่ะเนี่ยยยยยยยยย เรือ น้ำ อ๊ากกกกกกกกกก
ไปนั่งรอขึ้นเรือ ทำใจกล้าอยู่พักใหญ่ เหงื่อเริ่มออกมือ - -"
เรือมาถึง เป็นเรือหางยาวลำใหญ่ๆ แค่ยืนอยู่ตรงโป๊ะ ใจจะขาดรอนๆละ
ขึ้นเรือไป เอาตัวแปะคนข้างๆเลย กลัวจัด แอบฉวยโอกาส อิอิ
นั่งไปเรื่อยๆ ค่อยชินหน่อย เค้าพาไปดูหลักกิโลเมตรกลางน้ำด้วยหล่ะ
amazing ดีนะครับ ตั้งตระง่าน กลางน้ำ แต่พี่แกไม่จอดให้ถ่ายดีๆเลย
ต้องรัว shutter ยิกๆๆ ได้มาดีที่สุดแค่นี้แหละ 555
หลักกิโลเมตร ตั้งกลางน้ำเลย
ขึ้นจากเรือไปทานอาหาร ต้องกินท่ามกลางลมแรงมาก ย้ำว่ามากจริงๆ
ผักปลิวออกจากจานเลย 555 ตักอะไรเบาๆ ต้องรีบเอาเข้าปากนะ
adventure ดีครับ อาหารก็อร่อยดี (ได้กินกะคนข้างๆ อร่อยหมดหล่ะ ^^)
จากนั้นก็ไปที่พัก "ณ ปลายโพงพาง" ขับรถเข้าไปลึกเชียว
ที่พักน่ารักดี ตรงที่นั่งทานอาหาร จะเป็นโต๊ะสีขาว กับเก้าอี้หลากสี
เก้าอี้หลากสี เลือกนั่งกันตามใจชอบครับ
พี่ๆเลือกพักบ้านที่มีสองห้องนอน มีมุ้งให้ด้วย (ควรจะมี เพราะยุงเยอะมาก)
แต่ไม่ชอบห้องน้ำ open air กลัวแมลงอ๊ะ T^T
กางมุ้งนอน เพราะยุงแอบเยอะ
มีเปลยวนให้นั่งด้วย สนุก แต่ขึ้นลงลำบากจัง
วิ่งถ่ายรูปเล่นซักพัก เกือบๆเย็น ก็ไปตลาดน้ำอัมพวากัน
วิธีไปหน่ะหรอ แน่นอน นั่งเรือ!!!!!!!!!! o_O
แต่ดีว่าเริ่มชินและ ^^ เหมาเรือไปจากที่พักไปที่ตลาดเลย
ถ่ายรูปกันเพลิน กับ เก้าอี้หลากสี แต่เจย์เสื้อสีดำ เคไหม? ๕๕๕
ไปถึงตลาด ขอบอกว่าร้อนมากกกกกกกกกกกกก
ผ้าขนหนูชุ่มเหงื่อเลย ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย สนุกดีครับ
ตามหาเจ้าของเสื้อ ถูกขโมยยยย
นี่คือเสื้อคุณปลาทู มองผ่านๆ เหมือนพอสมควรนะ
แล้วก็เพิ่งรุว่า ตลาดเปิดถึงดึกเลยหล่ะครับ
แวะทานอาหารก่อนกลับที่ร้านอาหารในตลาด (ร้านชิวเชียว)
และซื้อเบียร์กลับไปที่พัก พร้อมน้ำเต้าปูปลา 555
ขอสีสันสดใสเต็มตลาด
ขากลับลุงพาแวะดูหิ่งห้อยระหว่างทางกลับ
พูดให้ถูกคือ ขับผ่านหิ่งห้อย ลุงไม่จอดดีๆเลย
เลยบอกไปว่า ลุงจอดหน่อยยยย เค้ามองไม่เห็นนนน
ดูๆไป เพลินดีนะครับ ไฟดวงเล็กๆ กระพริบ ปริบๆๆ
ขากลับมืดมากแล้ว จับมือคนข้างๆแน่นเลย
กลัวน้ำตอนกลางคืนเป็นสองเท่า เลยถือโอกาส จับมืออีกรอบ
กร๊ากกกกกกกกกกกก ฉวยโอกาสเก่งชะมัดเลย 555
ถึงที่พักก็อาบน้ำ แล้วมาก๊งกันถึงเที่ยงคืน แล้วแยกย้ายไปนอน
วันรุ่งขึ้น ออกจากที่พักประมาณ 10-11โมงได้
เมี่ยงน้อยเจอเพื่อนห่าน เล่นใหญ่เลย
ถ่ายรูปกะเมี่ยงน้อย ลูกเราน่ารักไหม ^^
มองเตงนิ่มด้วยหน้างงงวย เหมือนหมางงเลย 555
เอาลูกขึ้นบ่า ลูกตัวนิ๊ดดดเดียวเอง
ขับรถหาวัด เพื่อทำสังฆทาน เจย์ทำหลอดไฟแตกด้วยหล่ะ
แตกกลางอุโบสถเลย ดัง โพล๊ะ! แตกกระจาย - -"
แล้วก็มุ่งหน้าเข้ากทม. ไปแวะทานเข้าเที่ยงที่ Central พระราม2
แล้วก็กลับมาที่ห้องครับ
(ขอขอบคุณเพื่อนคนข้างๆที่ขับรถตลอด trip ครับ ^^)
เพิ่งจบไป trip เดียว ยาววววว ซะขนาดนี้ 555
มาต่อเลยดีกว่าครับ อิอิ
April 14, 10
มีนัดทำบุญกับตระกูลฝั่งป๊าๆช่วงเช้าครับ
ให้หลวงพ่อให้ศีลให้พร รับสิ่งดีๆมาเต็มเปี่ยม
ตกบ่ายเพื่อนคนข้างๆจะไปทำบุญให้เด็กๆที่บ้าน... (ลืมอ่ะ - -")
แล้วก็มีนัดเล่นน้ำ ปีนี้ on the กระบะ!!
ก่อนไปเล่นน้ำ ก็แวะกันไปทำบุญก่อน
ตัดกลับมาที่ปฏิบัติการเปียก ณ วันสาด
พี่ชอนคนขับไม้หนึ่งนี่ โหดมากกกกกกกก
นอกจากสาดใครไม่ได้ เพราะต้องยึดทุกอย่างไว้
(กลัวตกจากกระบะ แล้วโดนรถคันหลังเหยียบ)
ยังต้องจับถังไม่ให้กระเด็นไปฟาดคนอื่นๆ
แถมด้วยต้องต่อสู้กับน้ำที่สาดเข้ามา ที่หมายจะเอาชีวิต
(อาจจะดูเหมือนเวอร์ แต่ที่โชคชัย4และเสนา เล่นโหดมากครับ)
พอเปลี่ยนเป็นเพื่อนอีกคนของคนข้างๆมาขับ ค่อยยังชั่วหน่อย
ไม่ต้องสู้รบกับถังน้ำที่จ้องจะทับกันให้ตายไปข้างนึง 555
เล่นกันจนเย็น ก็แวะทานข้าวที่ร้าน ป้าไข่
อร่อย เพราะกินกะคนข้างๆเหมือนเดิม >.<
April 15, 10
วันนี้ คนข้างๆนัดเพื่อนไปทานข้าวเที่ยงกันครับ
เมื่อครบองค์ประชุม สิริรวม 4 คนถ้วน
ขับรถออกมา ตกลงกันได้ว่า ไปกินข้าวที่ "สุ1000" กัน
ณ ขณะนั้น เที่ยงแหล่ววว 5555
ขับไปไม่นานก็ถึงร้าน "เจ๊บ๊วย"
สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ จานที่อยากนำเสนอ คือ
"กุ้งเผา" เราสั่งมา 4 ตัว ตัวใหญ่มากกกกกกกก
จานนี้ (ต้องเรียกถาดซิเนอะ) ราคา 1500+ หนักเกิน1โลอี๊กก
แต่เจย์ไม่ชอบกินกุ้งใหญ่นะ เนื้อมันแข็งๆด้านอ่ะครับ
(lobster ก็ไม่ชอบ แข็งๆด้าน กินตัวเล็กอร่อยกว่านะ
หรือเจย์กินของดีๆกะเค้าไม่เป็น - -")
นี่ไง พี่กุ้งใหญ่ แค่หัวนี่ก็ตัวละสามขีดละมั้ง - -"
ทานเสร็จ ไปต่อที่ ตลาด 100 ปี สามชุก อุ๊กๆๆ
เดินเล่นกันซักพัก ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย ๕๕๕
ดูเน้นๆครับ trip นี้ บ้านโค้กคนละ 5 บาท ยังไม่เข้าเลย อิอิ
คนเยอะอีกตามเคย แย่งกันถ่ายรูปกับป้ายเยอะแยะ
ของเล่นสังกะสี หาดูได้ที่นี่เยอะแยะ
แวะทานชาเย็นที่ร้านอาม่า
เสร็จจากสามชุก ก็ไปแวะ "บ้านควาย"
คาดหวังว่าจะเจอควายเยอะแยะ เจอไม่กี่ตัวเองอ่ะ - -"
แถมเงี๊ยบเงียบ ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูซักเท่าไหร่
คุณควาย เขายาวมากกกกกกก ขวิดอีกตัวด้วย
จากนั้นก็ลาพี่ๆ แล้วแวะฮะจิบังทานข้าวเย็นคนเดียว
แต่มื้อนี้อร่อย เพราะถึงจะทานคนเดียว คนข้างๆก็ยังอยู่ด้วย >.<
จากนั้นก็พาคนข้างๆไปส่งบ้านโดยปลอดภัย พักผ่อนเพื่อสู้งานวันที่ 16
จบไปแล้วกับ trip เล็กๆที่ผ่านมาในช่วงเทศกาล
ยาวไหม ตอนแรกกะจะอัพแค่ว่า ไปไหนมา ไปเมื่อไหร่
พอเริ่มปุ๊บ หยุดไม่ได้ทุกที เอิ๊กๆๆ
ทุก trip สนุกมากเลยครับ ขอบคุณทุกคนที่ร่วม trip นะครับ
และอีกอย่าง ขอบคุณคนข้างๆนะ ที่ทำให้เจย์มีความสุขหล่ะ ^^
P.S.
- คนข้างๆ = คนข้างใจ เหมือนเดิม ^^
- คนข้างใจ = คนในใจ ด้วยนะ >.<
- ฮิ้วววววววววววววว แซวตัวเองอีกแล้ว อิอิ
- ซื้อกล้องมาแล้วนะครับ ซื้อ Canon 500D มาครับ
- อยากได้ Nikon D90 แต่ขนาดมือ ไม่อำนวยครับผม (มือจับไม่อยู่อ่ะ)
- ขอบคุณพี่ยูริกับคุณต้นกล้าสำหรับข้อมูลนะครับ
- บ้าถ่ายรูปมาก รุสึกตัวอีกที มีรุปตัวเองจึ๋งเดียว
- แถม laptop พื้นที่จะเต็ม เพราะขนาดไฟล์รูปใหญ่มาก
- รูปละประมาณ 5-6 MB เจี๊ยกกกกกกก
- เตรียมถอย external harddrive ได้เลย
- อยากได้ lens กับขาตั้งกล้อง
- แต่เงินทั้งหมดตอนนี้ เตรียมจ่ายค่าม่านม้วนราคาแพง - -"
- list ของที่ต้องซื้ออีกเพียบบบบบ
- accessory สำหรับหนอนน้อยๆ รอต่อไป T^T
- ช่วงนี้ไป JJ Market ทุกวันอาทิตย์ ติดต่อกันมาเป็นเดือน
- ได้เสื้อผ้ากันมาเยอะมากกกกกกกกกกกก
- โดยเฉพาะเสื้อกล้ามใส่นอนในห้อง ซื้อทำไมตัวละร้อยเนี่ย
- ซื้อมาสามตัว แล้วเพิ่งคิดได้ 555 บ้าไปแล้ววว
- แถมซื้อเสื้อshirt เสื้อยืดมาอีกเพียบบบบบบบ
- เต็มตู้ไปหมดแล้วตอนนี้ บ้าพลังมากกก
- แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่สำนึก เพราะยังคงซื้ออย่างต่อเนื่อง
- ช่วงนี้นอนดึกทุกคืน เพราะต้องนั่ง pack ของ
- พอถึงเวลานอน นอนไม่ได้ เพราะฝุ่นเต็มห้อง
- บอกคนข้างๆไปว่า...
- ขอไปนอนที่บ้านด้วยได้ไหม เค้าเป็นภูมิแพ้ แค่กๆๆ
- (เพิ่มแค่กๆไป จะได้ดูน่าสงสารเนอะ อิอิ)
- สัญญาจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน (เชื่อได้มาก 555)
- หน้าเจย์ใสซื่อขนาดนี้ เชื่อเต๊อะคร้าบบบบ
- เขียนเรื่องเสร็จตั้งแต่ Apr 21 ทำรูปเสร็จ Apr 25 เสร็จสมบูรณ์ Apr 26
- ลาไปก่อน ด้วยภาพสวยๆ จากหนอนน้อยของเจย์ครับ ^^
(สาดน้ำนะ ไม่ใช่คำไม่สุภาพ อิอิ)
คนข้างๆ ไม่ชอบออกสื่อ แต่ขอเจย์บอกรักออกสื่อหน่อย
"เค้ารักเตงน๊า" ฮิ้ววววววว
สาดช้าไปไหม หมดเทศกาลไปอาทิตย์นึงแล้ว - -"
แหะๆๆ ก็เรื่องที่จะอัพใน blog น้อยๆวันนี้
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเทศกาลเปียกที่ผ่านมาครับ
April 10-11, 10
เจย์มีโอกาสได้ไปเที่ยวอัมพวาเมื่อ Apr 10-11 ครับ
ไปค้างหนึ่งคืนถ้วน สมาชิกรวม 5 คน
มีเจย์ คนข้างๆ เพื่อนและน้องของเพื่อนของคนข้างๆ (งงจัง)
แต่รูปที่ลง มีรูปเจย์คนเดียว กร๊ากกกกกกกกกก
สนุกดีนะครับ ไม่เคยได้ไปค้างอ้างแรมตรงริมคลอง
รุสึก หนวกหูเสียงเรือยนต์นิดหน่อย (สนุกเหรอ 555)
(เพราะที่พักเปิดห้องมา ก็คลองเลย - -")
ขอเล่าแต่แรกเริ่มเดินทางเลยนะครับ
ออกจากกทม.กันตอน 10 โมงกว่าๆ
มุ่งหน้าไปหาร้านอาหาร "Bangkok Sea View"
ก่อนไปอัมพวา ได้บอกคนข้างๆไปแล้ว ว่าไม่ลงเรือนะ
กลัวน้ำ กลัวเรือ ลงไม่ได้ กลัวมากกกกกกกกก
แต่พอขึ้นรถออกเดินทาง คนข้างๆบอกเราจะไปร้านนี้นะคะ
ต้องนั่งเรือไปเท่านั้น!! ฟังจบ ในหัวประมวลผล
ยังไงดีหล่ะเนี่ยยยยยยยยย เรือ น้ำ อ๊ากกกกกกกกกก
ไปนั่งรอขึ้นเรือ ทำใจกล้าอยู่พักใหญ่ เหงื่อเริ่มออกมือ - -"
เรือมาถึง เป็นเรือหางยาวลำใหญ่ๆ แค่ยืนอยู่ตรงโป๊ะ ใจจะขาดรอนๆละ
ขึ้นเรือไป เอาตัวแปะคนข้างๆเลย กลัวจัด แอบฉวยโอกาส อิอิ
นั่งไปเรื่อยๆ ค่อยชินหน่อย เค้าพาไปดูหลักกิโลเมตรกลางน้ำด้วยหล่ะ
amazing ดีนะครับ ตั้งตระง่าน กลางน้ำ แต่พี่แกไม่จอดให้ถ่ายดีๆเลย
ต้องรัว shutter ยิกๆๆ ได้มาดีที่สุดแค่นี้แหละ 555
หลักกิโลเมตร ตั้งกลางน้ำเลย
ขึ้นจากเรือไปทานอาหาร ต้องกินท่ามกลางลมแรงมาก ย้ำว่ามากจริงๆ
ผักปลิวออกจากจานเลย 555 ตักอะไรเบาๆ ต้องรีบเอาเข้าปากนะ
adventure ดีครับ อาหารก็อร่อยดี (ได้กินกะคนข้างๆ อร่อยหมดหล่ะ ^^)
จากนั้นก็ไปที่พัก "ณ ปลายโพงพาง" ขับรถเข้าไปลึกเชียว
ที่พักน่ารักดี ตรงที่นั่งทานอาหาร จะเป็นโต๊ะสีขาว กับเก้าอี้หลากสี
เก้าอี้หลากสี เลือกนั่งกันตามใจชอบครับ
พี่ๆเลือกพักบ้านที่มีสองห้องนอน มีมุ้งให้ด้วย (ควรจะมี เพราะยุงเยอะมาก)
แต่ไม่ชอบห้องน้ำ open air กลัวแมลงอ๊ะ T^T
กางมุ้งนอน เพราะยุงแอบเยอะ
มีเปลยวนให้นั่งด้วย สนุก แต่ขึ้นลงลำบากจัง
วิ่งถ่ายรูปเล่นซักพัก เกือบๆเย็น ก็ไปตลาดน้ำอัมพวากัน
วิธีไปหน่ะหรอ แน่นอน นั่งเรือ!!!!!!!!!! o_O
แต่ดีว่าเริ่มชินและ ^^ เหมาเรือไปจากที่พักไปที่ตลาดเลย
ถ่ายรูปกันเพลิน กับ เก้าอี้หลากสี แต่เจย์เสื้อสีดำ เคไหม? ๕๕๕
ไปถึงตลาด ขอบอกว่าร้อนมากกกกกกกกกกกกก
ผ้าขนหนูชุ่มเหงื่อเลย ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย สนุกดีครับ
ตามหาเจ้าของเสื้อ ถูกขโมยยยย
นี่คือเสื้อคุณปลาทู มองผ่านๆ เหมือนพอสมควรนะ
แล้วก็เพิ่งรุว่า ตลาดเปิดถึงดึกเลยหล่ะครับ
แวะทานอาหารก่อนกลับที่ร้านอาหารในตลาด (ร้านชิวเชียว)
และซื้อเบียร์กลับไปที่พัก พร้อมน้ำเต้าปูปลา 555
ขอสีสันสดใสเต็มตลาด
ขากลับลุงพาแวะดูหิ่งห้อยระหว่างทางกลับ
พูดให้ถูกคือ ขับผ่านหิ่งห้อย ลุงไม่จอดดีๆเลย
เลยบอกไปว่า ลุงจอดหน่อยยยย เค้ามองไม่เห็นนนน
ดูๆไป เพลินดีนะครับ ไฟดวงเล็กๆ กระพริบ ปริบๆๆ
ขากลับมืดมากแล้ว จับมือคนข้างๆแน่นเลย
กลัวน้ำตอนกลางคืนเป็นสองเท่า เลยถือโอกาส จับมืออีกรอบ
กร๊ากกกกกกกกกกกก ฉวยโอกาสเก่งชะมัดเลย 555
ถึงที่พักก็อาบน้ำ แล้วมาก๊งกันถึงเที่ยงคืน แล้วแยกย้ายไปนอน
วันรุ่งขึ้น ออกจากที่พักประมาณ 10-11โมงได้
เมี่ยงน้อยเจอเพื่อนห่าน เล่นใหญ่เลย
ถ่ายรูปกะเมี่ยงน้อย ลูกเราน่ารักไหม ^^
มองเตงนิ่มด้วยหน้างงงวย เหมือนหมางงเลย 555
เอาลูกขึ้นบ่า ลูกตัวนิ๊ดดดเดียวเอง
ขับรถหาวัด เพื่อทำสังฆทาน เจย์ทำหลอดไฟแตกด้วยหล่ะ
แตกกลางอุโบสถเลย ดัง โพล๊ะ! แตกกระจาย - -"
แล้วก็มุ่งหน้าเข้ากทม. ไปแวะทานเข้าเที่ยงที่ Central พระราม2
แล้วก็กลับมาที่ห้องครับ
(ขอขอบคุณเพื่อนคนข้างๆที่ขับรถตลอด trip ครับ ^^)
เพิ่งจบไป trip เดียว ยาววววว ซะขนาดนี้ 555
มาต่อเลยดีกว่าครับ อิอิ
April 14, 10
มีนัดทำบุญกับตระกูลฝั่งป๊าๆช่วงเช้าครับ
ให้หลวงพ่อให้ศีลให้พร รับสิ่งดีๆมาเต็มเปี่ยม
ตกบ่ายเพื่อนคนข้างๆจะไปทำบุญให้เด็กๆที่บ้าน... (ลืมอ่ะ - -")
แล้วก็มีนัดเล่นน้ำ ปีนี้ on the กระบะ!!
ก่อนไปเล่นน้ำ ก็แวะกันไปทำบุญก่อน
ตัดกลับมาที่ปฏิบัติการเปียก ณ วันสาด
พี่ชอนคนขับไม้หนึ่งนี่ โหดมากกกกกกกก
นอกจากสาดใครไม่ได้ เพราะต้องยึดทุกอย่างไว้
(กลัวตกจากกระบะ แล้วโดนรถคันหลังเหยียบ)
ยังต้องจับถังไม่ให้กระเด็นไปฟาดคนอื่นๆ
แถมด้วยต้องต่อสู้กับน้ำที่สาดเข้ามา ที่หมายจะเอาชีวิต
(อาจจะดูเหมือนเวอร์ แต่ที่โชคชัย4และเสนา เล่นโหดมากครับ)
พอเปลี่ยนเป็นเพื่อนอีกคนของคนข้างๆมาขับ ค่อยยังชั่วหน่อย
ไม่ต้องสู้รบกับถังน้ำที่จ้องจะทับกันให้ตายไปข้างนึง 555
เล่นกันจนเย็น ก็แวะทานข้าวที่ร้าน ป้าไข่
อร่อย เพราะกินกะคนข้างๆเหมือนเดิม >.<
April 15, 10
วันนี้ คนข้างๆนัดเพื่อนไปทานข้าวเที่ยงกันครับ
เมื่อครบองค์ประชุม สิริรวม 4 คนถ้วน
ขับรถออกมา ตกลงกันได้ว่า ไปกินข้าวที่ "สุ1000" กัน
ณ ขณะนั้น เที่ยงแหล่ววว 5555
ขับไปไม่นานก็ถึงร้าน "เจ๊บ๊วย"
สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ จานที่อยากนำเสนอ คือ
"กุ้งเผา" เราสั่งมา 4 ตัว ตัวใหญ่มากกกกกกกก
จานนี้ (ต้องเรียกถาดซิเนอะ) ราคา 1500+ หนักเกิน1โลอี๊กก
แต่เจย์ไม่ชอบกินกุ้งใหญ่นะ เนื้อมันแข็งๆด้านอ่ะครับ
(lobster ก็ไม่ชอบ แข็งๆด้าน กินตัวเล็กอร่อยกว่านะ
หรือเจย์กินของดีๆกะเค้าไม่เป็น - -")
นี่ไง พี่กุ้งใหญ่ แค่หัวนี่ก็ตัวละสามขีดละมั้ง - -"
ทานเสร็จ ไปต่อที่ ตลาด 100 ปี สามชุก อุ๊กๆๆ
เดินเล่นกันซักพัก ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย ๕๕๕
ดูเน้นๆครับ trip นี้ บ้านโค้กคนละ 5 บาท ยังไม่เข้าเลย อิอิ
คนเยอะอีกตามเคย แย่งกันถ่ายรูปกับป้ายเยอะแยะ
ของเล่นสังกะสี หาดูได้ที่นี่เยอะแยะ
แวะทานชาเย็นที่ร้านอาม่า
เสร็จจากสามชุก ก็ไปแวะ "บ้านควาย"
คาดหวังว่าจะเจอควายเยอะแยะ เจอไม่กี่ตัวเองอ่ะ - -"
แถมเงี๊ยบเงียบ ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูซักเท่าไหร่
คุณควาย เขายาวมากกกกกกก ขวิดอีกตัวด้วย
จากนั้นก็ลาพี่ๆ แล้วแวะฮะจิบังทานข้าวเย็นคนเดียว
แต่มื้อนี้อร่อย เพราะถึงจะทานคนเดียว คนข้างๆก็ยังอยู่ด้วย >.<
จากนั้นก็พาคนข้างๆไปส่งบ้านโดยปลอดภัย พักผ่อนเพื่อสู้งานวันที่ 16
จบไปแล้วกับ trip เล็กๆที่ผ่านมาในช่วงเทศกาล
ยาวไหม ตอนแรกกะจะอัพแค่ว่า ไปไหนมา ไปเมื่อไหร่
พอเริ่มปุ๊บ หยุดไม่ได้ทุกที เอิ๊กๆๆ
ทุก trip สนุกมากเลยครับ ขอบคุณทุกคนที่ร่วม trip นะครับ
และอีกอย่าง ขอบคุณคนข้างๆนะ ที่ทำให้เจย์มีความสุขหล่ะ ^^
P.S.
- คนข้างๆ = คนข้างใจ เหมือนเดิม ^^
- คนข้างใจ = คนในใจ ด้วยนะ >.<
- ฮิ้วววววววววววววว แซวตัวเองอีกแล้ว อิอิ
- ซื้อกล้องมาแล้วนะครับ ซื้อ Canon 500D มาครับ
- อยากได้ Nikon D90 แต่ขนาดมือ ไม่อำนวยครับผม (มือจับไม่อยู่อ่ะ)
- ขอบคุณพี่ยูริกับคุณต้นกล้าสำหรับข้อมูลนะครับ
- บ้าถ่ายรูปมาก รุสึกตัวอีกที มีรุปตัวเองจึ๋งเดียว
- แถม laptop พื้นที่จะเต็ม เพราะขนาดไฟล์รูปใหญ่มาก
- รูปละประมาณ 5-6 MB เจี๊ยกกกกกกก
- เตรียมถอย external harddrive ได้เลย
- อยากได้ lens กับขาตั้งกล้อง
- แต่เงินทั้งหมดตอนนี้ เตรียมจ่ายค่าม่านม้วนราคาแพง - -"
- list ของที่ต้องซื้ออีกเพียบบบบบ
- accessory สำหรับหนอนน้อยๆ รอต่อไป T^T
- ช่วงนี้ไป JJ Market ทุกวันอาทิตย์ ติดต่อกันมาเป็นเดือน
- ได้เสื้อผ้ากันมาเยอะมากกกกกกกกกกกก
- โดยเฉพาะเสื้อกล้ามใส่นอนในห้อง ซื้อทำไมตัวละร้อยเนี่ย
- ซื้อมาสามตัว แล้วเพิ่งคิดได้ 555 บ้าไปแล้ววว
- แถมซื้อเสื้อshirt เสื้อยืดมาอีกเพียบบบบบบบ
- เต็มตู้ไปหมดแล้วตอนนี้ บ้าพลังมากกก
- แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่สำนึก เพราะยังคงซื้ออย่างต่อเนื่อง
- ช่วงนี้นอนดึกทุกคืน เพราะต้องนั่ง pack ของ
- พอถึงเวลานอน นอนไม่ได้ เพราะฝุ่นเต็มห้อง
- บอกคนข้างๆไปว่า...
- ขอไปนอนที่บ้านด้วยได้ไหม เค้าเป็นภูมิแพ้ แค่กๆๆ
- (เพิ่มแค่กๆไป จะได้ดูน่าสงสารเนอะ อิอิ)
- สัญญาจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน (เชื่อได้มาก 555)
- หน้าเจย์ใสซื่อขนาดนี้ เชื่อเต๊อะคร้าบบบบ
- เขียนเรื่องเสร็จตั้งแต่ Apr 21 ทำรูปเสร็จ Apr 25 เสร็จสมบูรณ์ Apr 26
- ลาไปก่อน ด้วยภาพสวยๆ จากหนอนน้อยของเจย์ครับ ^^
Thursday, March 25, 2010
Jay D3viL:: เจาะเลือด กับ น้องพี่หมีน้อย
โย๋ววว ,,
เสียงกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วครับ ^^
หายป่วยเยอะแยะมากมายแล้ว
สภาพตอนยังใช้ที่พยุงแขน ก็ยังแอบร่าเริงนะ อิอิ
ไหล่ ไม่ต้องใช้ที่พยุงแขนแล้วครับ (ไม่ใช้ตั้งนานแล้ว)
เอาออกวันแรก ก็เปรี้ยวไปไดร์ฟกอล์ฟเลยทีเดียว
ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องเดา ปวดหนึบๆ 555
แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากนะครับ
ตอนนี้ ในบางทีที่ขยับแขน มันจะมีเสียงเหมือน
มันมีอะไรขัดกันดังกรึ๊บ แต่ไม่เจ็บนะครับ
แค่ตึงในบางที แหะๆ
ส่วนไมเกรน หลังจากหายปวดไหล่ ก็หายตามๆกันไป
แต่ได้โรคใหม่ เป็นอาหารเป็นพิษ 555
ไปกินไรมาก็ไม่รุ อาหารเป็นพิษบ๊อยบ่อย
ก็กินยากันไปครับ หายเป็นปกติไป
(หายตั้งแต่จ่ายค่าหมอส่วนเกินละ เกินตลอดดดดด)
แต่เรื่องที่จะเล่าวันนี้ คือได้ไปเจาะเลือดตรวจโรคมาครับ
ผลตรวจ ไม่เป็นโรคตามที่คาดเดากันไว้ (ซึ่งก็ดี)
แต่เซ็งมากตอนเจาะเลือด - -"
ปกติ แค่บอกว่าจะเจาะเลือด นี่เจย์ก็หน้าซีดแล้ว
ใช้เวลาทำใจอยู่นานมาก จนคนข้างๆบอกว่า
เจาะได้แล้ว อย่าไปมองซิ จะได้ไม่กลัว
(ไม่มองนี่ imagination เจย์น่ากลัวกว่ามองอีกนะ)
ในที่สุด เจย์ก็ฮึดครับ เลยบอกพี่พยาบาลเสียงดังฟังชัดว่า
"ขออีกแป๊บนะพี่ ทำใจไม่ได้" 555
กลัวจริงๆครับนาทีนั้น คือไม่ได้ตั้งใจจะเจาะเลือดไง
แล้วกลัวเข็มมากกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่คนข้างๆนี่บอกว่าเจาะเถอะ จะได้รุว่าเป็นอะไรไหม
มีการบอกด้วยว่า เจาะแทนได้ เจาะไปแล้ว
(ผู้หญิงคนนี้ แกร่งน่านับถือมากครับ)
พอถึงเวลาเจาะ พี่พยาบาลก็ตบๆแขน
เจย์ยื่นแขนขวาไปก่อน เพราะแขนซ้ายเดี้ยงอยู่
สรุปว่า หาเส้นไม่เจอ - -"
ก็เลยยื่นแขนซ้ายไปแทน ก็จัดการหาเส้นกันใหม่
เพิ่งถ่ายเมื่อวาน อ้วนขึ้นไหมเนี่ย - -"
ในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึงงงงงงง
เข็มจิ้มลงไปในเนื้อแล้ว เสียงดัง.... (จะมีเสียงได้ไงเล่า)
ทันทีที่เข็มแทรกผ่านแขนเล็กๆที่สั่นเทา (ดูมันเว่อร์ๆแมะ??)
เจย์ก็เริ่มบรรเลงเลยครับ เคาะเท้ากับพื้นเป็นจังหวะ
พร้อมแหกปากไปเรื่อยว่า ว๊ากกกกกกกก
และตามด้วยประโยคว่า "พอแล้วคร้าบบบบบบ"
"เลือดหมดตัวแล้วคร้าบ เสร็จได้แล้วครับ"
แทนที่จะเสร็จ ที่จะหยุด กลับกลายเป็นว่า
หาเส้นเลือดไม่เจอ!!!!!!!
แล้วพี่จิ้มลงไปก่อนทำม๊ายยยยยยยยยยยยย
พี่เค้าก็เอาแต่พูดว่า จะเสร็จแล้วๆ อีกนิดเดียว
แต่คือ เจย์รุอยู่แล้วแหละ ว่ามันต้องเกิดอะไรซักอย่าง
เพราะเล่นจิ้มลงไปเรื่อยๆๆๆๆ เรื่อยยยยยย
จะเอาให้ทะลุแขนเลยไหมครับพี่ เจ็บจะตายแล้ว(อันนี้คิดในใจ 55)
คนข้างๆก็กดหัวเจย์เอาไว้ ไม่ให้มอง กลัวเจย์รุตัวมั้ง
แล้วพี่พยาบาลก็เรียกอีกคนมาช่วยเจาะ
เจย์เลยบอกพี่เค้าไปเลยว่า
"เอาออกมาก่อน ค่อยจิ้มใหม่ก็ได้ จะตายอยู่แล้ววว"
แต่ไม่ฟังครับ ดันเข็มหาเส้นเลือดเจย์ต่อไป - -"
ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลง พร้อมกับเลือด 1 หลอด T^T
เจาะเลือดเจ็บมากกกกกกกกกกกกก
ลำพังแค่กลัวเข็มนี่ก็จะตายแล้ว นี่เจ็บอีก ปวดใจมากครับ
ออกมา หน้านี่แบบ พอกันที ไม่เชื่อแล้ว หลอกเค้ามาเจาะเลือด
เหมือนตอนช่วงปีใหม่เลย ล็อคหัวเค้าให้พี่พยาบาลเจาะเลือด
สะเทือนใจมาก กระซิกๆๆๆ
แต่ก็ ดีแล้วแหละที่เจาะ จะได้รุว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก ^^
ก็จบไปกับเรื่องเจาะเลือดของเจย์ครับ
แต่ไหนๆก็ มาอัพทั้งที (อุตส่าห์ clear งานจนเสร็จ)
ก็ขอต่อเรื่องพี่หมีน้อยหน่อยนะครับ
ตอนนี้ พี่หมีน้อยมีน้องแล้ววววว
น้องของพี่หมีน้อยครับ
ชื่อง่ายมาก ชื่อ น้องหมีน้อย 555
แต่เจย์กะคนข้างๆเรียกสองคนนี้ว่า
เมี่ยงน้อย กับ นิ่มน้อย = พี่หมีน้อย กับ น้องหมีน้อย
ที่มาที่ไปของน้องหมีน้อยนี่ ไม่ใช่จะมากันง่ายๆนะครับ
คือเมื่อวันอังคาร ที่ลานล่างตึกมีกิจกรรมของอะไรซักอย่างเนี่ย
เค้ามาจัดงานขายของพวกเจลทาหน้าไรเนี่ยแหละ
ระหว่างที่เดินผ่านหลังจากกินข้าวเสร็จ
MC เค้าก็ประกาศว่า มีใครอยากได้ตุ๊กตาหมีไหมคะ
พี่ที่มาด้วยกันเลยหันมาถาม ใครจะเอาหมีมั่ง
เจย์เลยยกมือพูดเสียงดังว่า "ผมเอา"
MC ได้เหยื่อ ไม่รอช้า ปรี่มาหาเลย แล้วบอกว่า
"เล่นเกมส์ก่อนค่ะพี่" บลา บลา บลา
เจย์เลยตอบอย่างไม่รอช้าว่า "ไม่เล่น" 555
แต่ไม่ทันครับ พี่ข้างหลังผลักไปยืนเรียบร้อย - -"
ก็เลยเล่นเกมส์กับพี่อีกสองคน
ได้รางวัลเป็นน้องหมีน้อยนี่แหละครับ ^^
น้องตัวโตกว่าพี่อี๊กกกก
ก็มอบให้คนข้างๆไป แต่ทุกวันนี้ ทั้งเมี่ยงน้อยและนิ่มน้อย
ก็อยู่กับเจย์ทุกวันแหละ 555
โดยคนข้างๆบอกว่า เค้านอนหลับได้โดยไม่ต้องมีลูกๆ
แต่เจย์ต้องนอนกอดลูก ถึงจะหลับ - -"
ลูกเลยนอนกับเจย์ทุกคืนเลยยยยยยย
สรุปว่า นี่ให้เค้าไป หรือเอาไว้เองเนี่ย เอิ๊กๆๆ
(เจย์ตั้งใจให้จริงๆน๊า เพราะเจย์มีจูจิอยู่แล้วนี่นา)
(แต่ทุกวันนี้ จูจิงอน เพราะกอดลูกมากกว่า - -")
P.S.
- เจาะเลือด เจ็บ และน่ากลัว บรึ๊ยยยยยย
- คนข้างๆ = คนข้างใจ
- ฮิ้ววววววว แซวตัวเองอีกละ
- วันนี้ฟังเพลง ไปเอาคืนมาเลยนะ เกินสิบรอบแล้ว
- ถูกใจตั้งแต่ดนตรี
- มาฟังเนื้อเพลง เห้ย มันน่ารักดีแหะ
- คนข้างใจเค้าส่งมาให้ฟัง ^^
- พกโทรศัพท์สามเครื่อง และอยากได้ iphoneอีก (แต่มันแพงอ่ะ)
- แต่ตอนนี้ กำลังจะซื้อกล้อง DSLR ตัวแรกแล้วครับ
- แต่ๆๆ ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าเอาตัวไหนดี T^T
- Canon 50D 500D 550D หรือจะเล่น Nikon D90 D5000
- ปวดใจจี๊ดดดดดดดด กำเงินมือเปียก ตัดสินใจไม่ได้
- ซื้อกล้องปุ๊บ คงไม่ได้ถ่ายที่สวยๆ เพราะไม่เหลือเงินไปเที่ยว
- เศร้านะชีวิตพนักงานกินเงินเดือน T^T
- แต่ภูมิใจจัง (เอ่อ รีบภูมิใจไปไหม ยังไม่ได้ซื้อ - -")
- ถ้าเล่น Canon เตรียมถอยเลนส์อีกตัวแล้ว (เอ่อ ยังไม่ได้ซื้อกล้อง)
- ถ้าเล่น Nikon ไม่ซื้อเลนส์ มันแพง 555 (เห้ย ซื้อกล้องก่อนค่อยคิด)
- ต้องเผื่อเงินซื้อกระเป๋า ขาตั้งกล้อง battery grip (ซื้อกล้องก่อนเห๊อ)
- ถึงจุดจะซื้อ จะซื้อตัวไหนดี คิดไม่ออกกกกกกกก
- เดี๋ยวเงินได้หมดไปกับอย่างอื่นแหง กรี๊ดดดดด (ก็ซื้อซักทีจิ)
- เพิ่งจ่ายค่ารถที่เอาไปเช็คระยะมา 6 พัน
- ปวดใจกับเงินที่เสียไป แถมทำน้ำเข้าเครื่องเจย์อีก ปวดตับเลยทีนี้ - -"
- ไปวีนด่าที่ศูนย์ซะยกใหญ่ ช่างไม่ชำนาญ แล้วเอามาทำรถเจย์ทำไม
- โกรธ แต่ก็อภัยไป ก็ทำไรไม่ได้นี่นา - -"
- ไปและครับ แล้วพบกันใหม่คร้าบบบบบบ
- พบกันเร็วๆนี้แหละ อยากเขียนเรื่อง คนในฝัน (ดูอารมณ์ก่อนนะ)
ส่งท้ายด้วยภาพนี้ครับ ถ่ายที่ MRT จตุจักร เมื่อปี... 2007 มั้งครับ
เสียงกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วครับ ^^
หายป่วยเยอะแยะมากมายแล้ว
สภาพตอนยังใช้ที่พยุงแขน ก็ยังแอบร่าเริงนะ อิอิ
ไหล่ ไม่ต้องใช้ที่พยุงแขนแล้วครับ (ไม่ใช้ตั้งนานแล้ว)
เอาออกวันแรก ก็เปรี้ยวไปไดร์ฟกอล์ฟเลยทีเดียว
ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องเดา ปวดหนึบๆ 555
แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากนะครับ
ตอนนี้ ในบางทีที่ขยับแขน มันจะมีเสียงเหมือน
มันมีอะไรขัดกันดังกรึ๊บ แต่ไม่เจ็บนะครับ
แค่ตึงในบางที แหะๆ
ส่วนไมเกรน หลังจากหายปวดไหล่ ก็หายตามๆกันไป
แต่ได้โรคใหม่ เป็นอาหารเป็นพิษ 555
ไปกินไรมาก็ไม่รุ อาหารเป็นพิษบ๊อยบ่อย
ก็กินยากันไปครับ หายเป็นปกติไป
(หายตั้งแต่จ่ายค่าหมอส่วนเกินละ เกินตลอดดดดด)
แต่เรื่องที่จะเล่าวันนี้ คือได้ไปเจาะเลือดตรวจโรคมาครับ
ผลตรวจ ไม่เป็นโรคตามที่คาดเดากันไว้ (ซึ่งก็ดี)
แต่เซ็งมากตอนเจาะเลือด - -"
ปกติ แค่บอกว่าจะเจาะเลือด นี่เจย์ก็หน้าซีดแล้ว
ใช้เวลาทำใจอยู่นานมาก จนคนข้างๆบอกว่า
เจาะได้แล้ว อย่าไปมองซิ จะได้ไม่กลัว
(ไม่มองนี่ imagination เจย์น่ากลัวกว่ามองอีกนะ)
ในที่สุด เจย์ก็ฮึดครับ เลยบอกพี่พยาบาลเสียงดังฟังชัดว่า
"ขออีกแป๊บนะพี่ ทำใจไม่ได้" 555
กลัวจริงๆครับนาทีนั้น คือไม่ได้ตั้งใจจะเจาะเลือดไง
แล้วกลัวเข็มมากกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่คนข้างๆนี่บอกว่าเจาะเถอะ จะได้รุว่าเป็นอะไรไหม
มีการบอกด้วยว่า เจาะแทนได้ เจาะไปแล้ว
(ผู้หญิงคนนี้ แกร่งน่านับถือมากครับ)
พอถึงเวลาเจาะ พี่พยาบาลก็ตบๆแขน
เจย์ยื่นแขนขวาไปก่อน เพราะแขนซ้ายเดี้ยงอยู่
สรุปว่า หาเส้นไม่เจอ - -"
ก็เลยยื่นแขนซ้ายไปแทน ก็จัดการหาเส้นกันใหม่
เพิ่งถ่ายเมื่อวาน อ้วนขึ้นไหมเนี่ย - -"
ในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึงงงงงงง
เข็มจิ้มลงไปในเนื้อแล้ว เสียงดัง.... (จะมีเสียงได้ไงเล่า)
ทันทีที่เข็มแทรกผ่านแขนเล็กๆที่สั่นเทา (ดูมันเว่อร์ๆแมะ??)
เจย์ก็เริ่มบรรเลงเลยครับ เคาะเท้ากับพื้นเป็นจังหวะ
พร้อมแหกปากไปเรื่อยว่า ว๊ากกกกกกกก
และตามด้วยประโยคว่า "พอแล้วคร้าบบบบบบ"
"เลือดหมดตัวแล้วคร้าบ เสร็จได้แล้วครับ"
แทนที่จะเสร็จ ที่จะหยุด กลับกลายเป็นว่า
หาเส้นเลือดไม่เจอ!!!!!!!
แล้วพี่จิ้มลงไปก่อนทำม๊ายยยยยยยยยยยยย
พี่เค้าก็เอาแต่พูดว่า จะเสร็จแล้วๆ อีกนิดเดียว
แต่คือ เจย์รุอยู่แล้วแหละ ว่ามันต้องเกิดอะไรซักอย่าง
เพราะเล่นจิ้มลงไปเรื่อยๆๆๆๆ เรื่อยยยยยย
จะเอาให้ทะลุแขนเลยไหมครับพี่ เจ็บจะตายแล้ว(อันนี้คิดในใจ 55)
คนข้างๆก็กดหัวเจย์เอาไว้ ไม่ให้มอง กลัวเจย์รุตัวมั้ง
แล้วพี่พยาบาลก็เรียกอีกคนมาช่วยเจาะ
เจย์เลยบอกพี่เค้าไปเลยว่า
"เอาออกมาก่อน ค่อยจิ้มใหม่ก็ได้ จะตายอยู่แล้ววว"
แต่ไม่ฟังครับ ดันเข็มหาเส้นเลือดเจย์ต่อไป - -"
ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลง พร้อมกับเลือด 1 หลอด T^T
เจาะเลือดเจ็บมากกกกกกกกกกกกก
ลำพังแค่กลัวเข็มนี่ก็จะตายแล้ว นี่เจ็บอีก ปวดใจมากครับ
ออกมา หน้านี่แบบ พอกันที ไม่เชื่อแล้ว หลอกเค้ามาเจาะเลือด
เหมือนตอนช่วงปีใหม่เลย ล็อคหัวเค้าให้พี่พยาบาลเจาะเลือด
สะเทือนใจมาก กระซิกๆๆๆ
แต่ก็ ดีแล้วแหละที่เจาะ จะได้รุว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก ^^
ก็จบไปกับเรื่องเจาะเลือดของเจย์ครับ
แต่ไหนๆก็ มาอัพทั้งที (อุตส่าห์ clear งานจนเสร็จ)
ก็ขอต่อเรื่องพี่หมีน้อยหน่อยนะครับ
ตอนนี้ พี่หมีน้อยมีน้องแล้ววววว
น้องของพี่หมีน้อยครับ
ชื่อง่ายมาก ชื่อ น้องหมีน้อย 555
แต่เจย์กะคนข้างๆเรียกสองคนนี้ว่า
เมี่ยงน้อย กับ นิ่มน้อย = พี่หมีน้อย กับ น้องหมีน้อย
ที่มาที่ไปของน้องหมีน้อยนี่ ไม่ใช่จะมากันง่ายๆนะครับ
คือเมื่อวันอังคาร ที่ลานล่างตึกมีกิจกรรมของอะไรซักอย่างเนี่ย
เค้ามาจัดงานขายของพวกเจลทาหน้าไรเนี่ยแหละ
ระหว่างที่เดินผ่านหลังจากกินข้าวเสร็จ
MC เค้าก็ประกาศว่า มีใครอยากได้ตุ๊กตาหมีไหมคะ
พี่ที่มาด้วยกันเลยหันมาถาม ใครจะเอาหมีมั่ง
เจย์เลยยกมือพูดเสียงดังว่า "ผมเอา"
MC ได้เหยื่อ ไม่รอช้า ปรี่มาหาเลย แล้วบอกว่า
"เล่นเกมส์ก่อนค่ะพี่" บลา บลา บลา
เจย์เลยตอบอย่างไม่รอช้าว่า "ไม่เล่น" 555
แต่ไม่ทันครับ พี่ข้างหลังผลักไปยืนเรียบร้อย - -"
ก็เลยเล่นเกมส์กับพี่อีกสองคน
ได้รางวัลเป็นน้องหมีน้อยนี่แหละครับ ^^
น้องตัวโตกว่าพี่อี๊กกกก
ก็มอบให้คนข้างๆไป แต่ทุกวันนี้ ทั้งเมี่ยงน้อยและนิ่มน้อย
ก็อยู่กับเจย์ทุกวันแหละ 555
โดยคนข้างๆบอกว่า เค้านอนหลับได้โดยไม่ต้องมีลูกๆ
แต่เจย์ต้องนอนกอดลูก ถึงจะหลับ - -"
ลูกเลยนอนกับเจย์ทุกคืนเลยยยยยยย
สรุปว่า นี่ให้เค้าไป หรือเอาไว้เองเนี่ย เอิ๊กๆๆ
(เจย์ตั้งใจให้จริงๆน๊า เพราะเจย์มีจูจิอยู่แล้วนี่นา)
(แต่ทุกวันนี้ จูจิงอน เพราะกอดลูกมากกว่า - -")
P.S.
- เจาะเลือด เจ็บ และน่ากลัว บรึ๊ยยยยยย
- คนข้างๆ = คนข้างใจ
- ฮิ้ววววววว แซวตัวเองอีกละ
- วันนี้ฟังเพลง ไปเอาคืนมาเลยนะ เกินสิบรอบแล้ว
- ถูกใจตั้งแต่ดนตรี
- มาฟังเนื้อเพลง เห้ย มันน่ารักดีแหะ
- คนข้างใจเค้าส่งมาให้ฟัง ^^
- พกโทรศัพท์สามเครื่อง และอยากได้ iphoneอีก (แต่มันแพงอ่ะ)
- แต่ตอนนี้ กำลังจะซื้อกล้อง DSLR ตัวแรกแล้วครับ
- แต่ๆๆ ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าเอาตัวไหนดี T^T
- Canon 50D 500D 550D หรือจะเล่น Nikon D90 D5000
- ปวดใจจี๊ดดดดดดดด กำเงินมือเปียก ตัดสินใจไม่ได้
- ซื้อกล้องปุ๊บ คงไม่ได้ถ่ายที่สวยๆ เพราะไม่เหลือเงินไปเที่ยว
- เศร้านะชีวิตพนักงานกินเงินเดือน T^T
- แต่ภูมิใจจัง (เอ่อ รีบภูมิใจไปไหม ยังไม่ได้ซื้อ - -")
- ถ้าเล่น Canon เตรียมถอยเลนส์อีกตัวแล้ว (เอ่อ ยังไม่ได้ซื้อกล้อง)
- ถ้าเล่น Nikon ไม่ซื้อเลนส์ มันแพง 555 (เห้ย ซื้อกล้องก่อนค่อยคิด)
- ต้องเผื่อเงินซื้อกระเป๋า ขาตั้งกล้อง battery grip (ซื้อกล้องก่อนเห๊อ)
- ถึงจุดจะซื้อ จะซื้อตัวไหนดี คิดไม่ออกกกกกกกก
- เดี๋ยวเงินได้หมดไปกับอย่างอื่นแหง กรี๊ดดดดด (ก็ซื้อซักทีจิ)
- เพิ่งจ่ายค่ารถที่เอาไปเช็คระยะมา 6 พัน
- ปวดใจกับเงินที่เสียไป แถมทำน้ำเข้าเครื่องเจย์อีก ปวดตับเลยทีนี้ - -"
- ไปวีนด่าที่ศูนย์ซะยกใหญ่ ช่างไม่ชำนาญ แล้วเอามาทำรถเจย์ทำไม
- โกรธ แต่ก็อภัยไป ก็ทำไรไม่ได้นี่นา - -"
- ไปและครับ แล้วพบกันใหม่คร้าบบบบบบ
- พบกันเร็วๆนี้แหละ อยากเขียนเรื่อง คนในฝัน (ดูอารมณ์ก่อนนะ)
ส่งท้ายด้วยภาพนี้ครับ ถ่ายที่ MRT จตุจักร เมื่อปี... 2007 มั้งครับ
Tuesday, February 23, 2010
Jay D3viL:: กรุ๊บเดียว เสียวไป 2 weeks
กรุ๊บบบบบ ,,
วันนี้ เริ่มด้วยเสียงที่ไม่เหมือนทุกที
ทายซิว่ามันเป็นเสียงอะไร...
(พิมพ์มือเดียว ทำให้ย่อคำไปเยอะ อ่านแล้วงง ขออภัยไว้ด้วยนะครับ)
(และยาวมาก เพราะพิมพ์มาหลายวันเลย เป็นบันทึกคนป่วย - -")
รูปนี้ ก่อนจะเกิดเสียงกรุ๊บไม่กี่วัน
Feb 21, 10
เริ่มจากอาการป่วยหลายๆอย่าง ที่มันน่าเป็นห่วง
เลยทำให้ตัดสินใจ จะไปตรวจที่โรงพยาบาล
คืนวันเสาร์ อดน้ำกับอาหาร ตั้งแต่เที่ยงคืน เตรียมตัวเจาะเลือด
กว่าจะได้ไปโรงพยาบาล สามโมงเย็น T^T หิวข้าว หมดแรง
ขับรถไป เหมือนวิญญาณจะหลุดลอย 555
ไปถึง หมอกลับหมดแล้ว แง๊ๆๆ อุตส่าห์ทนอดน้ำกับอาหารนะ
เลยไปหาหมอกระดูกแทน ก็จ่ายยาตามอาการ
แล้วก็ไปเดินงาน condo ไม่เห็นมีที่ๆจะซื้อเลยอ๊ะ
แล้วก็ไปกิน Kindako และไปหาบาร์บีก้อน
กลับบ้าน นอนเปิดกล้อง แล้วก็หลับไป zzZ
Feb 22, 10
วันนี้เริ่มวัน ด้วยเสียง กรุ๊บ
เฉลย เสียงกรุ๊บ ก็คือ... เสียงหัวไหล่ซ้ายเจย์เอง
เกิดจากการดึงโต๊ะ ก็ตื่นเช้ามา โต๊ะขวางทางเดิน
ก็เดินไปดึง สงสัยผิดท่า กรุ๊บเดียว ชาทั้งแขน
เข้าไปอาบน้ำ เอื้อมมือจะไปสระผม
อ้าว ยกไม่ได้ซะงั้น เออ สงสัย ไหล่เคล็ด
อาบน้ำเสร็จ จะใส่เสื้อ แต่ใส่เสื้อยืดไม่ได้ 555
ยังขำอยู่นะ ยังคิดว่า แค่เคล็ดเท่านั้นแหละ
แบกเป้ขึ้นหลัง เดินทางไปทำงาน โดย MRT
เบี่ยงตัวหลบคนอย่างเมามันส์ อย่าชนเค้า เค้าเจ็บน๊า
ไปถึงที่ทำงาน บ่ายนู่นนน ถึงยกแขนได้
แต่ป๊วดปวดนะ พี่ๆมาจับไหล่ แล้วบอกว่า หลุดป่ะเนี่ย
มันบวม ก็เลยจับดูมั่ง เห้ย กระดูกปูด รีบวิ่งไปห้องพยาบาล
พี่พยาบาลบอก ไม่น่าจะถึงกับหลุดนะ
คงอักเสบเฉียบพลัน ยังไง ไปให้หมอดูซะ
ไอ้เราก็ เออไม่หลุด ไม่ไปดิ ไปทำไม (ดื้อเนอะ)
แต่แล้ว แม่หมีน้อย ขับรถพาไปเลย - -" ดื้อไม่ไหว
ไปถึง หมอกระดูกจับๆ บอกว่า...
อย่างเลวร้ายน้อยที่สุด ก็เอ็นหัวไหล่อักเสบ
อย่างเลวร้ายที่สุด ก็เยื่อหุ้มหัวไหล่ฉีกขาด
หมอเลย ให้ทานยาแก้อักเสบ กับใช้ที่พยุงแขน
อีก 2-3 weeks มาดูใหม่ ถ้าไม่หาย
ต้องส่องกล้องดู ว่าเยื่อหุ้มไหล่ฉีกขาดไหม
แม่เจ้า น่ากลัวไปไหม เลยเหวี่ยงแขนให้หมอดู
หมอดูดิ มันไม่เป็นไรหรอก (เทพไหม อิอิ)
บอกหมอไปว่า ไม่ขาดหรอก เนี่ย เหวี่ยงแขนได้อยู่เลย
แต่หมอช่วยตอบที กระดูกที่ปูดเนี่ย ยังไง อันนี้สงสัย
หมอบอกว่ามันบวม คงอักเสบ อ้าวหมอ!
มันกระดูกปูด ไม่ใช่เนื้อที่บวม ไม่เชื่อเค้าอีก
ก็เลย... กลับบ้านละ 555
Feb 23, 10
วิ่งเอาไหล่ที่กระดูกปูดๆไปให้หมอที่จะเข้ามาตรวจที่ office ดู
หมอบอกว่า อืม กระดูกปูดจริงๆด้วย (เห็นแมะ หมอเมื่อวานไม่เชื่อ)
เห็นมั๊ยว่ามันปูดจริงๆ
ถ้าเจ็บ ไป x-ray ดูนะ ก็เลยไปบอกแม่หมี
พอตกเย็น แม่หมีจับดู บอกว่า มันบวมขึ้นป่ะเนี่ย
ไปหาหมอเหอะ จะได้รุว่าเป็นอะไรมากไหม หมอมะวาน ไม่น่าเชื่อและ
เราไปให้เค้าตรวจ รุว่าเป็นอะไร จะได้สบายใจนะ
เจย์ก็บอกว่า ไม่เป็นไรม้างงงง มันไม่ได้ปวดเท่าวันแรกที่เป็นแล้ว
มันแค่ตึงๆ แล้วก็ยกแขน แล้วเอาลงไม่ได้ (นี่ยังนิ่งนอนใจอยู่ 555)
ระหว่างทางกลับบ้าน แม่หมีน้อยเลี้ยวเข้าโรงพญาบาลพญาไท 1
(ไม่มีถามกันหรอกนะ ดื้อไม่ทันจริงๆ - -")
ฟิ้วว วันที่ 3 กับโรงพยาบาล งึกๆๆ
หน้าตาห่อเหี่ยว ไม่ชอบไปโรงพยาบาลอ๊ะ T^T
วันนี้ เจอหมออีกคนนึง หมอมาจับไหล่ ดึงนั่นดึงนี่
ดึงไหล่กับแขน ให้ต้านแรง ให้ยกแขน
แขนเจย์ชาแปล๊บๆไปถึงนิ้วเลย บอกหมอ พอแล้วๆๆ
หมอก็เลยอธิบายให้ฟังว่า
ที่บวม มันเป็นปกติ เพราะมันอักเสบนะ และไหล่เนี่ย
จะบวมที่สุดวันที่สาม (พรุ่งนี้ซินะ อืมมมมม)
ส่วนที่ตึงๆ เป็นที่เส้นประสาทนะ เลยทำให้เวลาหมอดึงเนี่ย
มันจะชาไปถึงปลายนิ้ว เป็นที่เส้นประสาทท้องแขน (อืมมมม)
ส่วนกระดูกที่ปูด เป็นเพราะเอ็นที่ยึดกระดูก มันยืดดด
เลยถามหมอว่า แล้วต้องทำยังไงอ่ะ หมอก็ตอบว่า
มันก็หดนิดเดียว มันก็จะปูดกว่าอีกข้างแบบนี้ไปนั่นแหละ
แก้ได้ทางเดียว คือผ่าตัด แต่ถ้าไม่เจ็บ มันไม่จำเป็น
เจี๊ยกกกกกกกกกก ตกใจทั้งเจย์ทั้งแม่หมีน้อย
ไหล่เค้าจะปูดต่อไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงหรอฟระ
ช่างมันเถอะ ปูดกว่ากันไม่มาก ยังชิวได้อยู่ 555
หมอให้ไป x-ray ก็พบว่า เป็นอย่างที่หมอบอกข้างต้นแหละ
ก็กินยาแก้อักเสบต่อไป แล้วก็บอกว่า
ให้ใช้ที่พยุงแขนต่อไปอีก 2-3 weeks
เท่านั้นแหละ จ๊ากกกกกกกกก
ห้ามใช้แขนนะ มันจะได้กลับเข้าที่นิดนึง
แล้วอีก 2 weeks มาดูอีกที ว่าเป็นยังไง
เริ่มไม่ชิวและพี่น้อง ไม่ชิวเลยยยยย T^T
กลับบ้านนอน แล้วตั้งแต่เอ็นไหล่อักเสบเนี่ย
ตอนนอน จะตะแคงขวา ตื่นมา จะทับไหล่ซ้ายตลอดดด
เจ็บได้อี๊กกกก นอนก็ไม่สนิท แง๊ๆๆ
แล้วฝันร้าย และคงเพราะตื่นเต้นจัด สะดุ้งตื่นตอนตีสาม
ปวดหัวซีกซ้ายจนจะบ้า เป็นไมเกรนตอนตีสาม แง๊ๆๆ
Feb 24, 10
วันที่สามของการเป็นเอ็นหัวไหล่อักเสบ หมอบอกเมื่อวาน
ว่าวันที่สาม มันจะบวมที่สุด ก็ถอดเสื้อย่างทุลักทุเล
เตรียมจะไปอาบน้ำ โอ้ววววว บวมกว่าเมื่อวานอี๊กกก
ดีนะที่รุแล้ว ไม่งั้น เย็นนี้ แม่หมีน้อยพาไปหาหมออีกแน่ๆ
แล้วทำทุกอย่างมือเดียว ลำบากมากกกกก
ยิ่งเข้าห้องน้ำที่ office ต้องถอดที่พยุงแขนออก
แล้วก็ทนตึงๆที่แขน ใส่กางเกงก็ยาก เฮ้อออออ
ต้องมาใส่ต่อที่โต๊ะ เพราะห้องน้ำมันแคบ - -"
สิ่งนี้แหละครับ ที่ต้องอยู่ร่วมกันอีกพักใหญ่
ทำงานทุลักทุเล พยายามไม่ใช้แขน แต่เผลอทุกที 555
กลับบ้านไป เตรียนนอน รุสึกปวดซีกซ้ายมากอีกแล้ว
จัดไปเลย advil 1 เม็ด ดักไว้ก่อน
แต่ๆๆ... ตั้งแต่กินไปตอนห้าทุ่ม ตีสองนี่ปวดจะเป็นบ้า
แม่หมีเพิ่งบอกว่า ให้อดทนบ้างนะ เจ็บนิดหน่อยให้ทน
ไอ้เราก็ทนเลย ทนถึงตีสอง ไม่ไหว โอดโอยเลยทีนี้
แล้วก็สวดมนต์ในหัวจนหลับไปซักตีสามได้
Feb 25, 10
วันนี้ตื่นมาพร้อมอาการไมเกรนจากเมื่อคืน ทรมานได้อีก
นั่งก๊งอยู่ในรถ พอถึงที่ทำงาน ทำงานได้แป๊บเดียว
9:30 ก็ขึ้นไปห้องพยาบาล ขอยาทานแล้วนอคอยู่ที่เตียง
แต่ไม่ได้นอนเลย เพราะปวดมากกกกกกก ปวดนอนไม่ได้
กลิ้งไป รับโทรศัพท์งานไป แล้วก็เริ่มรุสึก เอ๊ะ แสบท้อง
เดินออกไปถามพี่พยาบาล พี่ค้าบ ยากกัดกระเพราะไหมคร้าบ
ตามคาด กัดครับพี่น้อง แล้วกินขนมจีบไปจึ๋งนึง
ก็นอนกลิ้งให้ยามันย่อยกระเพราะเล่นต่อไป
ซักสามชั่วโมง เริ่มอยากอาเจียนแล้ว - -"
ยังปวดข้างซ้ายยังอยู่นะ ปวดน้อยลง แต่อยากอาเจียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เดินไปหาพี่พยาบาลอีกรอบ พี่ครับ ยาตัวนี้ side effect มีคลื่นไส้ไหม
โอ้วว ตามคาด มีแน่นอนหล่ะครับ ทรมานได้อี๊กกกกกกกกก
นอนไปจนถึงบ่ายโมง กลับมานั่งทำงานต่อ เพราะรุสึกดีขึ้น
แต่เปล่าเลย คิดไปเอง 555 กินขนมปังไป กินยาไมเกรนไปอีก 1 เม็ด
ทำงานถึงสามโมงครึ่ง โอยยยยย หัวจะระเบิด อยากอาเจียนอีก
ขึ้นไปขอเจลเย็นๆ กดหัวหน่อยละกัน นั่งโปะไป คุยกะพี่พยาบาลไป
พี่ก็บอกว่า ไปหาหมอ ให้เค้าฉีดยาเถอะ ตาช้ำหมดแล้ว
แล้วยอมไม่หล่ะ ไม่ย๊อมมมม กลัวเข็มมากกว่ากลัวปวดหัว
นั่งคุยไป เจลแปะไป น้ำมูกยืดดด เพราะเจลเย็นมาก 555
พี่พยาบาลบอกว่า เราเพิ่งไปโรงพยาบาลมานี่
(พี่ๆเค้าพยาบาลของพญาไท1 ครับ)
พี่อีกคนก็บอกว่า เมื่อต้นปี เราไป admit มาป่ะ
เลยบอกใช่ๆ สรุป พี่พยาบาลที่ ER จำเจย์ได้ 3 คนแล้ว
พี่บอก เห็นเราโวยหมออยู่ ว่าไม่ยอมให้ฉีดอะไรซักอยาก
(วันนั้นหมอจะให้น้ำเกลือ และให้ยาทางเส้นเลือด
เลยบอกหมอว่า ถ้าหมอจะให้น้ำเกลือ กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยหล่ะ)
นั่งคุยไปซักพัก ไม่ไหวจะทน ขอยาแก้อาเจียน ซึ่ง side effect คือ
ง่วงมากกกกกกกกก ซัดไป ได้หลับไปครึ่งชม.
หกโมงก็ไปหาแม่หมี ไปนั่งรอไป ง่วงไป แล้วแม่หมีก็พากลับบ้าน
หลับในรถตลอดทาง ไม่ไหวจะลืมตาเลย
กลับถึงบ้าน ตื่นละ 555 จะได้นอนไหมคืนนี้
แล้วมันก็เริ่มปวดไมเกรนอีก ตอนห้าทุ่ม
ซัด stugeron ไปโลด เป็นยาแก้เวียนครับ
มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนของเลือด (เจย์บ้านหมุนบ่อย)
เปิดแอร์อัดนอน ถึงเช้า ตื่นมา ค่อยสบายหน่อย
Feb 26, 10
วันนี้ ตื่นมาปวดซีกซ้ายหน่อยๆ ไม่มาก
ตื่นมา ไม่เจ็บไหล่ เลยดีใจมากไปหน่อย
เอี้ยวตัวอาบน้ำ โอย ยังเจ็บนิ หลอกทำไม
ตอนนี้เลยเจ็บเป็นบ้าเลย เจ็บเท่าวันแรกเลย
หัวซีกซ้ายก็มาปวดมะกี้อีกหนนึง แต่ไม่มากแล้ว
เย็นนี้กลับบ้าน รถจะติดไหม??
ติดแน่ๆ ขับรถมือเดียวอีก - -"
ชีวิตต้องสู้ สู้ต่อไปนะเจย์ (บอกตัวเอง 555)
P.S.
- ไปหาหมอสามวัน ต้องจ่ายเงินที่เกินวงเงินตลอดเลย T^T
- ถึงแม้ร่างกายจะดูป่วยมากมาย แต่ยิ้มได้อยู่นะครับ
- ยิ้มกับสิ่งดีๆที่เข้ามา เย้ๆๆ >.<
- ขอบคุณแม่หมีน้อย ที่ดูแลเด็กน้อยนะครับ
- ขอโทษที่ดื้อในบาง(หลายๆ)ทีนะครับ
- ก็ เค้าดื้ออ่ะ
- ไม่ต้องตกใจ ว่าเจย์ทำไมเป็นอะไรเยอะแยะไปหมดนะครับ
- ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ
- แต่ถ้าออกกำลังกาย จะไม่ค่อยเป็นไรเลยครับ (แต่ช่วงนี้ไม่ได้ทำเลย)
- แล้วเกือบครึ่งของอาการป่วย เกิดจาก side effect ของยาครับ - -"
- แม่หมีน้อยบอกว่า ทีหลังจะยอมเชื่อได้ยัง ว่าให้ระวัง
- เชื่อแล้วค้าบบบ หนนี้ เข็ดแล้วคร้าบบบ
- ไปหลอกคนอื่นว่า แม่หมีน้อยซัดมา 555
- บอกในนี้ได้หมด เพราะแม่หมีน้อยไม่ได้มาอ่าน อิอิ
- ได้ของเล่นมาจากเพื่อนแม่หมีน้อย ขอบคุณนะคร้าบบ
- มันวิ่งวนรอบห้องเลย ช๊อบชอบ ^^
- วันนี้ แม่หมีไม่ให้ไปเจอ บอกสงสารขับรถมือเดียว
- งี้อดเจอตั้งสามวัน แง๊ๆๆ (คิดถึงนะเฟร้ย)
- ไหล่เป็นงี้ จะเล่นกอล์ฟได้อยู่ไหมอ่ะ T^T
- ลาด้วยภาพนี้ครับ ถ่ายที่ Duck Pond แถวบ้านป้าที่ GA ครับผม
วันนี้ เริ่มด้วยเสียงที่ไม่เหมือนทุกที
ทายซิว่ามันเป็นเสียงอะไร...
(พิมพ์มือเดียว ทำให้ย่อคำไปเยอะ อ่านแล้วงง ขออภัยไว้ด้วยนะครับ)
(และยาวมาก เพราะพิมพ์มาหลายวันเลย เป็นบันทึกคนป่วย - -")
รูปนี้ ก่อนจะเกิดเสียงกรุ๊บไม่กี่วัน
Feb 21, 10
เริ่มจากอาการป่วยหลายๆอย่าง ที่มันน่าเป็นห่วง
เลยทำให้ตัดสินใจ จะไปตรวจที่โรงพยาบาล
คืนวันเสาร์ อดน้ำกับอาหาร ตั้งแต่เที่ยงคืน เตรียมตัวเจาะเลือด
กว่าจะได้ไปโรงพยาบาล สามโมงเย็น T^T หิวข้าว หมดแรง
ขับรถไป เหมือนวิญญาณจะหลุดลอย 555
ไปถึง หมอกลับหมดแล้ว แง๊ๆๆ อุตส่าห์ทนอดน้ำกับอาหารนะ
เลยไปหาหมอกระดูกแทน ก็จ่ายยาตามอาการ
แล้วก็ไปเดินงาน condo ไม่เห็นมีที่ๆจะซื้อเลยอ๊ะ
แล้วก็ไปกิน Kindako และไปหาบาร์บีก้อน
กลับบ้าน นอนเปิดกล้อง แล้วก็หลับไป zzZ
Feb 22, 10
วันนี้เริ่มวัน ด้วยเสียง กรุ๊บ
เฉลย เสียงกรุ๊บ ก็คือ... เสียงหัวไหล่ซ้ายเจย์เอง
เกิดจากการดึงโต๊ะ ก็ตื่นเช้ามา โต๊ะขวางทางเดิน
ก็เดินไปดึง สงสัยผิดท่า กรุ๊บเดียว ชาทั้งแขน
เข้าไปอาบน้ำ เอื้อมมือจะไปสระผม
อ้าว ยกไม่ได้ซะงั้น เออ สงสัย ไหล่เคล็ด
อาบน้ำเสร็จ จะใส่เสื้อ แต่ใส่เสื้อยืดไม่ได้ 555
ยังขำอยู่นะ ยังคิดว่า แค่เคล็ดเท่านั้นแหละ
แบกเป้ขึ้นหลัง เดินทางไปทำงาน โดย MRT
เบี่ยงตัวหลบคนอย่างเมามันส์ อย่าชนเค้า เค้าเจ็บน๊า
ไปถึงที่ทำงาน บ่ายนู่นนน ถึงยกแขนได้
แต่ป๊วดปวดนะ พี่ๆมาจับไหล่ แล้วบอกว่า หลุดป่ะเนี่ย
มันบวม ก็เลยจับดูมั่ง เห้ย กระดูกปูด รีบวิ่งไปห้องพยาบาล
พี่พยาบาลบอก ไม่น่าจะถึงกับหลุดนะ
คงอักเสบเฉียบพลัน ยังไง ไปให้หมอดูซะ
ไอ้เราก็ เออไม่หลุด ไม่ไปดิ ไปทำไม (ดื้อเนอะ)
แต่แล้ว แม่หมีน้อย ขับรถพาไปเลย - -" ดื้อไม่ไหว
ไปถึง หมอกระดูกจับๆ บอกว่า...
อย่างเลวร้ายน้อยที่สุด ก็เอ็นหัวไหล่อักเสบ
อย่างเลวร้ายที่สุด ก็เยื่อหุ้มหัวไหล่ฉีกขาด
หมอเลย ให้ทานยาแก้อักเสบ กับใช้ที่พยุงแขน
อีก 2-3 weeks มาดูใหม่ ถ้าไม่หาย
ต้องส่องกล้องดู ว่าเยื่อหุ้มไหล่ฉีกขาดไหม
แม่เจ้า น่ากลัวไปไหม เลยเหวี่ยงแขนให้หมอดู
หมอดูดิ มันไม่เป็นไรหรอก (เทพไหม อิอิ)
บอกหมอไปว่า ไม่ขาดหรอก เนี่ย เหวี่ยงแขนได้อยู่เลย
แต่หมอช่วยตอบที กระดูกที่ปูดเนี่ย ยังไง อันนี้สงสัย
หมอบอกว่ามันบวม คงอักเสบ อ้าวหมอ!
มันกระดูกปูด ไม่ใช่เนื้อที่บวม ไม่เชื่อเค้าอีก
ก็เลย... กลับบ้านละ 555
Feb 23, 10
วิ่งเอาไหล่ที่กระดูกปูดๆไปให้หมอที่จะเข้ามาตรวจที่ office ดู
หมอบอกว่า อืม กระดูกปูดจริงๆด้วย (เห็นแมะ หมอเมื่อวานไม่เชื่อ)
เห็นมั๊ยว่ามันปูดจริงๆ
ถ้าเจ็บ ไป x-ray ดูนะ ก็เลยไปบอกแม่หมี
พอตกเย็น แม่หมีจับดู บอกว่า มันบวมขึ้นป่ะเนี่ย
ไปหาหมอเหอะ จะได้รุว่าเป็นอะไรมากไหม หมอมะวาน ไม่น่าเชื่อและ
เราไปให้เค้าตรวจ รุว่าเป็นอะไร จะได้สบายใจนะ
เจย์ก็บอกว่า ไม่เป็นไรม้างงงง มันไม่ได้ปวดเท่าวันแรกที่เป็นแล้ว
มันแค่ตึงๆ แล้วก็ยกแขน แล้วเอาลงไม่ได้ (นี่ยังนิ่งนอนใจอยู่ 555)
ระหว่างทางกลับบ้าน แม่หมีน้อยเลี้ยวเข้าโรงพญาบาลพญาไท 1
(ไม่มีถามกันหรอกนะ ดื้อไม่ทันจริงๆ - -")
ฟิ้วว วันที่ 3 กับโรงพยาบาล งึกๆๆ
หน้าตาห่อเหี่ยว ไม่ชอบไปโรงพยาบาลอ๊ะ T^T
วันนี้ เจอหมออีกคนนึง หมอมาจับไหล่ ดึงนั่นดึงนี่
ดึงไหล่กับแขน ให้ต้านแรง ให้ยกแขน
แขนเจย์ชาแปล๊บๆไปถึงนิ้วเลย บอกหมอ พอแล้วๆๆ
หมอก็เลยอธิบายให้ฟังว่า
ที่บวม มันเป็นปกติ เพราะมันอักเสบนะ และไหล่เนี่ย
จะบวมที่สุดวันที่สาม (พรุ่งนี้ซินะ อืมมมมม)
ส่วนที่ตึงๆ เป็นที่เส้นประสาทนะ เลยทำให้เวลาหมอดึงเนี่ย
มันจะชาไปถึงปลายนิ้ว เป็นที่เส้นประสาทท้องแขน (อืมมมม)
ส่วนกระดูกที่ปูด เป็นเพราะเอ็นที่ยึดกระดูก มันยืดดด
เลยถามหมอว่า แล้วต้องทำยังไงอ่ะ หมอก็ตอบว่า
มันก็หดนิดเดียว มันก็จะปูดกว่าอีกข้างแบบนี้ไปนั่นแหละ
แก้ได้ทางเดียว คือผ่าตัด แต่ถ้าไม่เจ็บ มันไม่จำเป็น
เจี๊ยกกกกกกกกกก ตกใจทั้งเจย์ทั้งแม่หมีน้อย
ไหล่เค้าจะปูดต่อไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงหรอฟระ
ช่างมันเถอะ ปูดกว่ากันไม่มาก ยังชิวได้อยู่ 555
หมอให้ไป x-ray ก็พบว่า เป็นอย่างที่หมอบอกข้างต้นแหละ
ก็กินยาแก้อักเสบต่อไป แล้วก็บอกว่า
ให้ใช้ที่พยุงแขนต่อไปอีก 2-3 weeks
เท่านั้นแหละ จ๊ากกกกกกกกก
ห้ามใช้แขนนะ มันจะได้กลับเข้าที่นิดนึง
แล้วอีก 2 weeks มาดูอีกที ว่าเป็นยังไง
เริ่มไม่ชิวและพี่น้อง ไม่ชิวเลยยยยย T^T
กลับบ้านนอน แล้วตั้งแต่เอ็นไหล่อักเสบเนี่ย
ตอนนอน จะตะแคงขวา ตื่นมา จะทับไหล่ซ้ายตลอดดด
เจ็บได้อี๊กกกก นอนก็ไม่สนิท แง๊ๆๆ
แล้วฝันร้าย และคงเพราะตื่นเต้นจัด สะดุ้งตื่นตอนตีสาม
ปวดหัวซีกซ้ายจนจะบ้า เป็นไมเกรนตอนตีสาม แง๊ๆๆ
Feb 24, 10
วันที่สามของการเป็นเอ็นหัวไหล่อักเสบ หมอบอกเมื่อวาน
ว่าวันที่สาม มันจะบวมที่สุด ก็ถอดเสื้อย่างทุลักทุเล
เตรียมจะไปอาบน้ำ โอ้ววววว บวมกว่าเมื่อวานอี๊กกก
ดีนะที่รุแล้ว ไม่งั้น เย็นนี้ แม่หมีน้อยพาไปหาหมออีกแน่ๆ
แล้วทำทุกอย่างมือเดียว ลำบากมากกกกก
ยิ่งเข้าห้องน้ำที่ office ต้องถอดที่พยุงแขนออก
แล้วก็ทนตึงๆที่แขน ใส่กางเกงก็ยาก เฮ้อออออ
ต้องมาใส่ต่อที่โต๊ะ เพราะห้องน้ำมันแคบ - -"
สิ่งนี้แหละครับ ที่ต้องอยู่ร่วมกันอีกพักใหญ่
ทำงานทุลักทุเล พยายามไม่ใช้แขน แต่เผลอทุกที 555
กลับบ้านไป เตรียนนอน รุสึกปวดซีกซ้ายมากอีกแล้ว
จัดไปเลย advil 1 เม็ด ดักไว้ก่อน
แต่ๆๆ... ตั้งแต่กินไปตอนห้าทุ่ม ตีสองนี่ปวดจะเป็นบ้า
แม่หมีเพิ่งบอกว่า ให้อดทนบ้างนะ เจ็บนิดหน่อยให้ทน
ไอ้เราก็ทนเลย ทนถึงตีสอง ไม่ไหว โอดโอยเลยทีนี้
แล้วก็สวดมนต์ในหัวจนหลับไปซักตีสามได้
Feb 25, 10
วันนี้ตื่นมาพร้อมอาการไมเกรนจากเมื่อคืน ทรมานได้อีก
นั่งก๊งอยู่ในรถ พอถึงที่ทำงาน ทำงานได้แป๊บเดียว
9:30 ก็ขึ้นไปห้องพยาบาล ขอยาทานแล้วนอคอยู่ที่เตียง
แต่ไม่ได้นอนเลย เพราะปวดมากกกกกกก ปวดนอนไม่ได้
กลิ้งไป รับโทรศัพท์งานไป แล้วก็เริ่มรุสึก เอ๊ะ แสบท้อง
เดินออกไปถามพี่พยาบาล พี่ค้าบ ยากกัดกระเพราะไหมคร้าบ
ตามคาด กัดครับพี่น้อง แล้วกินขนมจีบไปจึ๋งนึง
ก็นอนกลิ้งให้ยามันย่อยกระเพราะเล่นต่อไป
ซักสามชั่วโมง เริ่มอยากอาเจียนแล้ว - -"
ยังปวดข้างซ้ายยังอยู่นะ ปวดน้อยลง แต่อยากอาเจียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เดินไปหาพี่พยาบาลอีกรอบ พี่ครับ ยาตัวนี้ side effect มีคลื่นไส้ไหม
โอ้วว ตามคาด มีแน่นอนหล่ะครับ ทรมานได้อี๊กกกกกกกกก
นอนไปจนถึงบ่ายโมง กลับมานั่งทำงานต่อ เพราะรุสึกดีขึ้น
แต่เปล่าเลย คิดไปเอง 555 กินขนมปังไป กินยาไมเกรนไปอีก 1 เม็ด
ทำงานถึงสามโมงครึ่ง โอยยยยย หัวจะระเบิด อยากอาเจียนอีก
ขึ้นไปขอเจลเย็นๆ กดหัวหน่อยละกัน นั่งโปะไป คุยกะพี่พยาบาลไป
พี่ก็บอกว่า ไปหาหมอ ให้เค้าฉีดยาเถอะ ตาช้ำหมดแล้ว
แล้วยอมไม่หล่ะ ไม่ย๊อมมมม กลัวเข็มมากกว่ากลัวปวดหัว
นั่งคุยไป เจลแปะไป น้ำมูกยืดดด เพราะเจลเย็นมาก 555
พี่พยาบาลบอกว่า เราเพิ่งไปโรงพยาบาลมานี่
(พี่ๆเค้าพยาบาลของพญาไท1 ครับ)
พี่อีกคนก็บอกว่า เมื่อต้นปี เราไป admit มาป่ะ
เลยบอกใช่ๆ สรุป พี่พยาบาลที่ ER จำเจย์ได้ 3 คนแล้ว
พี่บอก เห็นเราโวยหมออยู่ ว่าไม่ยอมให้ฉีดอะไรซักอยาก
(วันนั้นหมอจะให้น้ำเกลือ และให้ยาทางเส้นเลือด
เลยบอกหมอว่า ถ้าหมอจะให้น้ำเกลือ กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยหล่ะ)
นั่งคุยไปซักพัก ไม่ไหวจะทน ขอยาแก้อาเจียน ซึ่ง side effect คือ
ง่วงมากกกกกกกกก ซัดไป ได้หลับไปครึ่งชม.
หกโมงก็ไปหาแม่หมี ไปนั่งรอไป ง่วงไป แล้วแม่หมีก็พากลับบ้าน
หลับในรถตลอดทาง ไม่ไหวจะลืมตาเลย
กลับถึงบ้าน ตื่นละ 555 จะได้นอนไหมคืนนี้
แล้วมันก็เริ่มปวดไมเกรนอีก ตอนห้าทุ่ม
ซัด stugeron ไปโลด เป็นยาแก้เวียนครับ
มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนของเลือด (เจย์บ้านหมุนบ่อย)
เปิดแอร์อัดนอน ถึงเช้า ตื่นมา ค่อยสบายหน่อย
Feb 26, 10
วันนี้ ตื่นมาปวดซีกซ้ายหน่อยๆ ไม่มาก
ตื่นมา ไม่เจ็บไหล่ เลยดีใจมากไปหน่อย
เอี้ยวตัวอาบน้ำ โอย ยังเจ็บนิ หลอกทำไม
ตอนนี้เลยเจ็บเป็นบ้าเลย เจ็บเท่าวันแรกเลย
หัวซีกซ้ายก็มาปวดมะกี้อีกหนนึง แต่ไม่มากแล้ว
เย็นนี้กลับบ้าน รถจะติดไหม??
ติดแน่ๆ ขับรถมือเดียวอีก - -"
ชีวิตต้องสู้ สู้ต่อไปนะเจย์ (บอกตัวเอง 555)
P.S.
- ไปหาหมอสามวัน ต้องจ่ายเงินที่เกินวงเงินตลอดเลย T^T
- ถึงแม้ร่างกายจะดูป่วยมากมาย แต่ยิ้มได้อยู่นะครับ
- ยิ้มกับสิ่งดีๆที่เข้ามา เย้ๆๆ >.<
- ขอบคุณแม่หมีน้อย ที่ดูแลเด็กน้อยนะครับ
- ขอโทษที่ดื้อในบาง(หลายๆ)ทีนะครับ
- ก็ เค้าดื้ออ่ะ
- ไม่ต้องตกใจ ว่าเจย์ทำไมเป็นอะไรเยอะแยะไปหมดนะครับ
- ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ
- แต่ถ้าออกกำลังกาย จะไม่ค่อยเป็นไรเลยครับ (แต่ช่วงนี้ไม่ได้ทำเลย)
- แล้วเกือบครึ่งของอาการป่วย เกิดจาก side effect ของยาครับ - -"
- แม่หมีน้อยบอกว่า ทีหลังจะยอมเชื่อได้ยัง ว่าให้ระวัง
- เชื่อแล้วค้าบบบ หนนี้ เข็ดแล้วคร้าบบบ
- ไปหลอกคนอื่นว่า แม่หมีน้อยซัดมา 555
- บอกในนี้ได้หมด เพราะแม่หมีน้อยไม่ได้มาอ่าน อิอิ
- ได้ของเล่นมาจากเพื่อนแม่หมีน้อย ขอบคุณนะคร้าบบ
- มันวิ่งวนรอบห้องเลย ช๊อบชอบ ^^
- วันนี้ แม่หมีไม่ให้ไปเจอ บอกสงสารขับรถมือเดียว
- งี้อดเจอตั้งสามวัน แง๊ๆๆ (คิดถึงนะเฟร้ย)
- ไหล่เป็นงี้ จะเล่นกอล์ฟได้อยู่ไหมอ่ะ T^T
- ลาด้วยภาพนี้ครับ ถ่ายที่ Duck Pond แถวบ้านป้าที่ GA ครับผม
Thursday, February 18, 2010
Jay D3viL:: Outing ปีที่แล้ว แอ๊ว แอ๊ววว
โย่ววววววว ,,
สวัสดีครับทุกคน ถ่ายเหมือน The Dog ไหม อิอิ
(ถ่ายเมื่อวัน Feb 16 ที่ผ่านมา)
หลังจากที่บอกว่าจะเขียนเรื่องการไป outing กับที่บริษัทเมื่อปีที่แล้ว
วันนี้ ฤกษ์งามยามดี (แสดงว่า ยามไม่แอบหลับ แป๊กป่ะ - -")
ได้รูปมา 9 รูป จากทั้งหมด เป็นพันรูปเลยมั้ง ไม่รุว่า ทำไมถ่ายเย๊อเยอะ
เจย์ได้ไป outing ที่พัทยาครับ ไปเมื่อ Nov 06-08, 09
เพราะฉะนั้น รูปที่จะได้เห็น จะไม่เหมือนเจย์ตอนนี้หรอกครับ
ตอนนั้นอ้วนแก้มป่อง ส่วนตอนนี้ แก้มหายยย 555
(แต่ก็ขึ้นมาเกือบเท่าเดิมละครับ ^^)
Nov 06, 09
พวกเรานัดขึ้นรถกันที่ อาคารจามจุรี สถานที่ทำงานของพวกเรานั่นแหละครับ
นัดเช้าตรู่ กว่าจะมากันครบ ก็ late อยู่ดี - -"
ไปกันสิริรวม ร้อยเท่าไหร่ชีวิตไม่ทราบได้ ลืมจำนวนครับ
นี่กำลังโทรตามพี่ๆที่ยังมาไม่ถึง ยังกะตามจับปูใส่ตระกร้า - -"
วันแรก เราได้แวะทานข้าวเที่ยง ที่ร้านอะไรไม่รุ เจย์ก็ลืมอีกนั่นแหละ
แล้วก็แวะตลาดน้ำ 4 ภาค ซึ่งโดยส่วนตัว รุสึกว่า มันยังไม่ลงตัวนะครับ
ของซ้ำกันหลายร้านเลย และบางที ข้ามไปอีกภาคนึงแล้ว
ยังไม่รุสึกตัวเลยว่า เราย้ายภาคแล้ว เอ่ออออ เดินไปงงไป
และอีกอย่าง ร้อนมากกกกครับ น่าจะจัดต้นไม้หรือทำอะไรเพิ่มนะ
ทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว กำลังจะกลับขึ้นรถ
ไปถึงโรงแรม ก็กระโดดเล่นบนเตียงหล่ะครับ อิอิ
แอบหลับไป แล้วพี่ๆก็เรียกลงไปกินผลไม้ รอไปทานข้าวเย็น
ที่ร้าน "ประภาคาร" (ใช่ไหมเนี่ย??)
อ้อ ในทีมที่เจย์ทำงานอยู่ เจย์เด็กสุดเลยหล่ะ เลยจะเรียกคนอื่นว่าพี่ๆนะครับ
(แต่ที่ไปกันนี้ ไปกันหลายทีมเลยนะครับ มีเด็กกว่าเจย์ด้วยหล่ะ)
ทานข้าวไป มีจับฉลากเลือกการแสดงครับ
เป็นการเต้นตาม MV เพลงต่างๆ
ทีมของพวกเจย์ ได้เพลง nobody - -"
แล้วท่าที่ต้องเต้นตาม เป็นกลุ่มเกย์เต้น (ยากกว่าต้นฉบับอีกอ่ะ)
กลับจากทานข้าว ก็ไปซ้อมกันที่ห้องใหญ่
ซึ่งพี่ๆทุกคน ก๊งเหล้ายาปลาปิ้ง หาได้สนใจการแสดงไม่
(ระหว่างทางกลับ แวะซื้ออาหารและของมึนเมาที่ 7-11
ซื้อหมดไปหลายพันเลย ได้ stamp มาเป็นกองงงงงงง)
ในที่สุด ก็ตกลงกันว่า ทีมพวกเรา มีร่วมสามสิบคน
หากเต้นมันทุกคน ขึ้นเวทีไป ก็คงพังแหละหล่ะ 555
เลยเลือกออกมา 5 คน โดยการ "โอน้อยออก"
(ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆเล้ยยยยยย)
โดยสรุปกันว่า เต้นตามแค่ท่อนฮุคพอ ที่เหลือ เต้นเอามันส์
แล้วก็แยกย้ายกันไปกินและนอนกันต่อ อิอิ
Nov 07, 09
วันที่สอง มีเข้าประชุมตอนเช้า นิดๆหน่อยๆ และบ่ายก็เล่นกีฬากัน
หลับยาวไปหน่อย ลงมาอีกที เค้าเตะบอลสามขากันไปแล้ว
เล่นกันซะ ทรายเต็มหน้าเลยครับ - -"
แล้วเกมส์ที่สอง โดนไล่ไปเล่น แล้วคิดดูครับ เล่นกีฬาตอนบ่ายโมง
แม่เจ้า พระอาทิตย์เต็มกระหม่อม เท่านั้นไม่พอ ทรายครับทราย
ทรายร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เท้าพองเลยอ๊ะ ตัวดำอีก ไม่ได้ทาอะไรเลย แดงก่อน แล้วดำเลย T^T
อย่างแสบแขนอ่ะครับพี่น้อง แต่ก็ต้องเล่นต่อไป
ยืนตากแดด หัวแดง ตัวดำ
เจย์ชนะด้วยน๊า ได้ที่ 1 ด้วย อิอิ
แต่ผลรวม แพ้ทีมสีแดงหล่ะ แป่วๆๆๆ
แล้วก็มีเล่นเกมส์ขี่หลังแล้วสู้กันครับ ซึ่งเกมส์นี้
เจย์เจ็บตัวสุดๆ เพราะพี่เอาตัวเจย์ที่เกาะอยู่หลังเค้าไปชน
ดัง "อั่กกกกกกกก" กระดูกแทบหักเลย T^T
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยคร้าบบบบบบ
หลังจากนั้นก็แยกย้าย ไปอาบน้ำ พักผ่อน รอ party คืนที่สอง
concept คือ "My Idol" แต่งตาม idol ที่ตัวเองชอบ
เจย์เล่นง่ายเลย ดาราเกาหลีเว้ย เอาผ้าพันคอพาด ก็เสร็จละ อิอิ
แล้วมีชื่อเกาหลีด้วยนะครับ ชื่อ "ยอง ยอง ซอย"
คู่กับพี่อีกคนเป็นผู้หญิง ชื่อ "คัน ตง ฮี"
แหม มันช่างเหมาะกันดีแท้ (แอบทะลึ่งนิดหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ ^^)
เห็น ยอง ยอง ซอย ไหมครับ ส่วนพี่เสื้อแดง นั่นแหละ คัน ตง ฮี
ถ่ายกับพี่ในทีม แกเป็น sales ภาคใต้ แต่งมายังกะผู้ก่อการร้าย - -"
แล้วทุกคนก็แสดงกันไป ซึ่งพอถึงทีมพวกเจย์แสดง โอ้โฮ
ไม่มีเต้นตามเพลงกันเลย 5555 ตัวใครตัวมันมาก
เต้นเอามันส์อย่างเดียวเลยครับ
นี่ไง เต้นกันไปคนละท่าเลยทีเดียว - -"
แล้วก็มีการให้รางวัลแต่งตัวยอดเยี่ยมต่างๆ
แล้วจบด้วย Dance กระจายยยยยยยยยยย
ซึ่งเจย์ไม่ชอบหรอกครับเต้นอะไรเนี่ย
ดูรูปข้างล่างซิครับ
ไม่ชอบเต้นหรอก เต้นซะเหงื่อท่วมตัว (โดนพี่ที่เมาบังคับให้เต้น - -")
คนเมาๆ ก็ปีนโต๊ะเต้นกันกระจาย บางคนก็ต่อเก้าอี้นอนมันตรงนั้นเลย
กินเหล้ากันดุมากครับ แต่เจย์ไม่กินเลยซักหยดหล่ะ ^^
คืนนั้น ก็เข้านอนปกติ ไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจาก เมื่อยมากกกกกกกกกกก
เมื่อนเกินบรรยายจริงๆครับ
Nov 08, 09
วันนี้ เดินทางกลับแล้วครับ จริงๆกำหนดถึงไม่เกิน 3:00pm
แต่รถที่เจย์นั่ง ท่อน้ำมันแตก - -" ทุกคนเลยต้องไปนั่งอัดกันอีกคัน
เจย์ต้องไปนั่งตรงหน้ารถเลย ที่เป็นคอกๆกั้นไว้อ่ะ
นั่งเหน็บกินถึงกทม. ทรมานเหลือหลาย
แถมต้องระวัง ไม่ให้ไปโดนสายไฟ ไม่งั้น ไฟดูดตายยย
ยังไม่รุชะตากรรม ว่าต้องไปนั่งรวมกันที่คันเดียว เหอๆ
แต่ก็เป็น trip ที่สนุกดีครับ ทำงานเหนื่อยๆ ได้ไปปลดปล่อย
ก็ขอบคุณทีมงานทุกท่านอีกทีที่นี่ครับ (คงจะมีคนได้อ่านหล่ะนะ 555)
ทำงานออกมาได้ประทับใจดีครับผม ^^
P.S.
- อู้งาน มาอัพ blog อีกแล้ววววว
- แต่เจย์ clear งานเสร็จไปแล้วนะ ^^
- เมื่อวานได้ร่วมเดินทางไปส่งพี่คนนึงที่หมอชิต
- เลยได้พาพี่หมีน้อยไปด้วย
- ไว้เอารูปออกจาก BB แล้วจะมาอัพนะครับ
- อยู่ดีๆ ก็ยิ้มหล่ะ 555 ท่าทางจะเพี้ยน
- รักเจ้าของเสื้อในรุปแรกนะครับ >.<
- เขินทำไม เค้าไม่ได้มาอ่าน 555
- ได้เงินแต๊ะเอียด้วยหล่ะ ขอบคุณป๊ากับม๊า,เจ๊,ป้าที่เมกา,ฝ้าย,ย่าและอากู๋
- เงิน(เกือบ)ทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่าย(ของเจย์) เข้าบัญชีเงินเก็บละครับ ^^
- ต่อไปก็รอเงินโบนัส >.<
- คิดไว้ว่า blog หน้าต่อไป จะอัพเรื่องหนัง
- ไม่ก็ ความกังขาในบางเรื่องของตัวเองครับ
- ขอบคุณหลายๆคน ที่เข้ามาบอกว่า ชอบอ่านblogและdiaryที่เจย์อัพครับ
- ไม่เม้นไม่ว่า แต่อ่านแล้วอยากให้ยิ้มครับ
- ถ้าอ่านหน้านี้ไม่ยิ้ม กลับไปอ่านหน้า Journey of P'Mee-noi
- จะได้ยิ้มนะครับ ^^
- หลายคน มาบอกว่าอยากเห็นแม่หมี
- ไม่ให้เห็นหรอก หวง 555
- จริงๆ ก็แค่ไม่อยากจะเปิดเผยอะไรเรื่องส่วนตัวอีกแล้ว
- ไม่อยากเหนื่อย หรือรุสึกไม่เป็นส่วนตัวหน่ะครับ
- ไม่งั้น เดี๋ยวเจย์หนีไปอัพที่อื่นอีกนะ (หนีไปมาหลายที่ละ 555)
- หรืออยากให้เจย์ไปจาก blogspot T^T
- ขออยู่ด้วยนะคร้าบบบบบบบ ^^
- ลาด้วยรูปนี้ เพิ่งถ่ายเมื่อวาน มีแก้มนิดนึงละนะครับ
สวัสดีครับทุกคน ถ่ายเหมือน The Dog ไหม อิอิ
(ถ่ายเมื่อวัน Feb 16 ที่ผ่านมา)
หลังจากที่บอกว่าจะเขียนเรื่องการไป outing กับที่บริษัทเมื่อปีที่แล้ว
วันนี้ ฤกษ์งามยามดี (แสดงว่า ยามไม่แอบหลับ แป๊กป่ะ - -")
ได้รูปมา 9 รูป จากทั้งหมด เป็นพันรูปเลยมั้ง ไม่รุว่า ทำไมถ่ายเย๊อเยอะ
เจย์ได้ไป outing ที่พัทยาครับ ไปเมื่อ Nov 06-08, 09
เพราะฉะนั้น รูปที่จะได้เห็น จะไม่เหมือนเจย์ตอนนี้หรอกครับ
ตอนนั้นอ้วนแก้มป่อง ส่วนตอนนี้ แก้มหายยย 555
(แต่ก็ขึ้นมาเกือบเท่าเดิมละครับ ^^)
Nov 06, 09
พวกเรานัดขึ้นรถกันที่ อาคารจามจุรี สถานที่ทำงานของพวกเรานั่นแหละครับ
นัดเช้าตรู่ กว่าจะมากันครบ ก็ late อยู่ดี - -"
ไปกันสิริรวม ร้อยเท่าไหร่ชีวิตไม่ทราบได้ ลืมจำนวนครับ
นี่กำลังโทรตามพี่ๆที่ยังมาไม่ถึง ยังกะตามจับปูใส่ตระกร้า - -"
วันแรก เราได้แวะทานข้าวเที่ยง ที่ร้านอะไรไม่รุ เจย์ก็ลืมอีกนั่นแหละ
แล้วก็แวะตลาดน้ำ 4 ภาค ซึ่งโดยส่วนตัว รุสึกว่า มันยังไม่ลงตัวนะครับ
ของซ้ำกันหลายร้านเลย และบางที ข้ามไปอีกภาคนึงแล้ว
ยังไม่รุสึกตัวเลยว่า เราย้ายภาคแล้ว เอ่ออออ เดินไปงงไป
และอีกอย่าง ร้อนมากกกกครับ น่าจะจัดต้นไม้หรือทำอะไรเพิ่มนะ
ทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว กำลังจะกลับขึ้นรถ
ไปถึงโรงแรม ก็กระโดดเล่นบนเตียงหล่ะครับ อิอิ
แอบหลับไป แล้วพี่ๆก็เรียกลงไปกินผลไม้ รอไปทานข้าวเย็น
ที่ร้าน "ประภาคาร" (ใช่ไหมเนี่ย??)
อ้อ ในทีมที่เจย์ทำงานอยู่ เจย์เด็กสุดเลยหล่ะ เลยจะเรียกคนอื่นว่าพี่ๆนะครับ
(แต่ที่ไปกันนี้ ไปกันหลายทีมเลยนะครับ มีเด็กกว่าเจย์ด้วยหล่ะ)
ทานข้าวไป มีจับฉลากเลือกการแสดงครับ
เป็นการเต้นตาม MV เพลงต่างๆ
ทีมของพวกเจย์ ได้เพลง nobody - -"
แล้วท่าที่ต้องเต้นตาม เป็นกลุ่มเกย์เต้น (ยากกว่าต้นฉบับอีกอ่ะ)
กลับจากทานข้าว ก็ไปซ้อมกันที่ห้องใหญ่
ซึ่งพี่ๆทุกคน ก๊งเหล้ายาปลาปิ้ง หาได้สนใจการแสดงไม่
(ระหว่างทางกลับ แวะซื้ออาหารและของมึนเมาที่ 7-11
ซื้อหมดไปหลายพันเลย ได้ stamp มาเป็นกองงงงงงง)
ในที่สุด ก็ตกลงกันว่า ทีมพวกเรา มีร่วมสามสิบคน
หากเต้นมันทุกคน ขึ้นเวทีไป ก็คงพังแหละหล่ะ 555
เลยเลือกออกมา 5 คน โดยการ "โอน้อยออก"
(ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆเล้ยยยยยย)
โดยสรุปกันว่า เต้นตามแค่ท่อนฮุคพอ ที่เหลือ เต้นเอามันส์
แล้วก็แยกย้ายกันไปกินและนอนกันต่อ อิอิ
Nov 07, 09
วันที่สอง มีเข้าประชุมตอนเช้า นิดๆหน่อยๆ และบ่ายก็เล่นกีฬากัน
หลับยาวไปหน่อย ลงมาอีกที เค้าเตะบอลสามขากันไปแล้ว
เล่นกันซะ ทรายเต็มหน้าเลยครับ - -"
แล้วเกมส์ที่สอง โดนไล่ไปเล่น แล้วคิดดูครับ เล่นกีฬาตอนบ่ายโมง
แม่เจ้า พระอาทิตย์เต็มกระหม่อม เท่านั้นไม่พอ ทรายครับทราย
ทรายร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เท้าพองเลยอ๊ะ ตัวดำอีก ไม่ได้ทาอะไรเลย แดงก่อน แล้วดำเลย T^T
อย่างแสบแขนอ่ะครับพี่น้อง แต่ก็ต้องเล่นต่อไป
ยืนตากแดด หัวแดง ตัวดำ
เจย์ชนะด้วยน๊า ได้ที่ 1 ด้วย อิอิ
แต่ผลรวม แพ้ทีมสีแดงหล่ะ แป่วๆๆๆ
แล้วก็มีเล่นเกมส์ขี่หลังแล้วสู้กันครับ ซึ่งเกมส์นี้
เจย์เจ็บตัวสุดๆ เพราะพี่เอาตัวเจย์ที่เกาะอยู่หลังเค้าไปชน
ดัง "อั่กกกกกกกก" กระดูกแทบหักเลย T^T
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยคร้าบบบบบบ
หลังจากนั้นก็แยกย้าย ไปอาบน้ำ พักผ่อน รอ party คืนที่สอง
concept คือ "My Idol" แต่งตาม idol ที่ตัวเองชอบ
เจย์เล่นง่ายเลย ดาราเกาหลีเว้ย เอาผ้าพันคอพาด ก็เสร็จละ อิอิ
แล้วมีชื่อเกาหลีด้วยนะครับ ชื่อ "ยอง ยอง ซอย"
คู่กับพี่อีกคนเป็นผู้หญิง ชื่อ "คัน ตง ฮี"
แหม มันช่างเหมาะกันดีแท้ (แอบทะลึ่งนิดหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ ^^)
เห็น ยอง ยอง ซอย ไหมครับ ส่วนพี่เสื้อแดง นั่นแหละ คัน ตง ฮี
ถ่ายกับพี่ในทีม แกเป็น sales ภาคใต้ แต่งมายังกะผู้ก่อการร้าย - -"
แล้วทุกคนก็แสดงกันไป ซึ่งพอถึงทีมพวกเจย์แสดง โอ้โฮ
ไม่มีเต้นตามเพลงกันเลย 5555 ตัวใครตัวมันมาก
เต้นเอามันส์อย่างเดียวเลยครับ
นี่ไง เต้นกันไปคนละท่าเลยทีเดียว - -"
แล้วก็มีการให้รางวัลแต่งตัวยอดเยี่ยมต่างๆ
แล้วจบด้วย Dance กระจายยยยยยยยยยย
ซึ่งเจย์ไม่ชอบหรอกครับเต้นอะไรเนี่ย
ดูรูปข้างล่างซิครับ
ไม่ชอบเต้นหรอก เต้นซะเหงื่อท่วมตัว (โดนพี่ที่เมาบังคับให้เต้น - -")
คนเมาๆ ก็ปีนโต๊ะเต้นกันกระจาย บางคนก็ต่อเก้าอี้นอนมันตรงนั้นเลย
กินเหล้ากันดุมากครับ แต่เจย์ไม่กินเลยซักหยดหล่ะ ^^
คืนนั้น ก็เข้านอนปกติ ไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจาก เมื่อยมากกกกกกกกกกก
เมื่อนเกินบรรยายจริงๆครับ
Nov 08, 09
วันนี้ เดินทางกลับแล้วครับ จริงๆกำหนดถึงไม่เกิน 3:00pm
แต่รถที่เจย์นั่ง ท่อน้ำมันแตก - -" ทุกคนเลยต้องไปนั่งอัดกันอีกคัน
เจย์ต้องไปนั่งตรงหน้ารถเลย ที่เป็นคอกๆกั้นไว้อ่ะ
นั่งเหน็บกินถึงกทม. ทรมานเหลือหลาย
แถมต้องระวัง ไม่ให้ไปโดนสายไฟ ไม่งั้น ไฟดูดตายยย
ยังไม่รุชะตากรรม ว่าต้องไปนั่งรวมกันที่คันเดียว เหอๆ
แต่ก็เป็น trip ที่สนุกดีครับ ทำงานเหนื่อยๆ ได้ไปปลดปล่อย
ก็ขอบคุณทีมงานทุกท่านอีกทีที่นี่ครับ (คงจะมีคนได้อ่านหล่ะนะ 555)
ทำงานออกมาได้ประทับใจดีครับผม ^^
P.S.
- อู้งาน มาอัพ blog อีกแล้ววววว
- แต่เจย์ clear งานเสร็จไปแล้วนะ ^^
- เมื่อวานได้ร่วมเดินทางไปส่งพี่คนนึงที่หมอชิต
- เลยได้พาพี่หมีน้อยไปด้วย
- ไว้เอารูปออกจาก BB แล้วจะมาอัพนะครับ
- อยู่ดีๆ ก็ยิ้มหล่ะ 555 ท่าทางจะเพี้ยน
- รักเจ้าของเสื้อในรุปแรกนะครับ >.<
- เขินทำไม เค้าไม่ได้มาอ่าน 555
- ได้เงินแต๊ะเอียด้วยหล่ะ ขอบคุณป๊ากับม๊า,เจ๊,ป้าที่เมกา,ฝ้าย,ย่าและอากู๋
- เงิน(เกือบ)ทั้งหมด หลังหักค่าใช้จ่าย(ของเจย์) เข้าบัญชีเงินเก็บละครับ ^^
- ต่อไปก็รอเงินโบนัส >.<
- คิดไว้ว่า blog หน้าต่อไป จะอัพเรื่องหนัง
- ไม่ก็ ความกังขาในบางเรื่องของตัวเองครับ
- ขอบคุณหลายๆคน ที่เข้ามาบอกว่า ชอบอ่านblogและdiaryที่เจย์อัพครับ
- ไม่เม้นไม่ว่า แต่อ่านแล้วอยากให้ยิ้มครับ
- ถ้าอ่านหน้านี้ไม่ยิ้ม กลับไปอ่านหน้า Journey of P'Mee-noi
- จะได้ยิ้มนะครับ ^^
- หลายคน มาบอกว่าอยากเห็นแม่หมี
- ไม่ให้เห็นหรอก หวง 555
- จริงๆ ก็แค่ไม่อยากจะเปิดเผยอะไรเรื่องส่วนตัวอีกแล้ว
- ไม่อยากเหนื่อย หรือรุสึกไม่เป็นส่วนตัวหน่ะครับ
- ไม่งั้น เดี๋ยวเจย์หนีไปอัพที่อื่นอีกนะ (หนีไปมาหลายที่ละ 555)
- หรืออยากให้เจย์ไปจาก blogspot T^T
- ขออยู่ด้วยนะคร้าบบบบบบบ ^^
- ลาด้วยรูปนี้ เพิ่งถ่ายเมื่อวาน มีแก้มนิดนึงละนะครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)