โย๋ววว ,,
เสียงกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วครับ ^^
หายป่วยเยอะแยะมากมายแล้ว
สภาพตอนยังใช้ที่พยุงแขน ก็ยังแอบร่าเริงนะ อิอิ
ไหล่ ไม่ต้องใช้ที่พยุงแขนแล้วครับ (ไม่ใช้ตั้งนานแล้ว)
เอาออกวันแรก ก็เปรี้ยวไปไดร์ฟกอล์ฟเลยทีเดียว
ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องเดา ปวดหนึบๆ 555
แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากนะครับ
ตอนนี้ ในบางทีที่ขยับแขน มันจะมีเสียงเหมือน
มันมีอะไรขัดกันดังกรึ๊บ แต่ไม่เจ็บนะครับ
แค่ตึงในบางที แหะๆ
ส่วนไมเกรน หลังจากหายปวดไหล่ ก็หายตามๆกันไป
แต่ได้โรคใหม่ เป็นอาหารเป็นพิษ 555
ไปกินไรมาก็ไม่รุ อาหารเป็นพิษบ๊อยบ่อย
ก็กินยากันไปครับ หายเป็นปกติไป
(หายตั้งแต่จ่ายค่าหมอส่วนเกินละ เกินตลอดดดดด)
แต่เรื่องที่จะเล่าวันนี้ คือได้ไปเจาะเลือดตรวจโรคมาครับ
ผลตรวจ ไม่เป็นโรคตามที่คาดเดากันไว้ (ซึ่งก็ดี)
แต่เซ็งมากตอนเจาะเลือด - -"
ปกติ แค่บอกว่าจะเจาะเลือด นี่เจย์ก็หน้าซีดแล้ว
ใช้เวลาทำใจอยู่นานมาก จนคนข้างๆบอกว่า
เจาะได้แล้ว อย่าไปมองซิ จะได้ไม่กลัว
(ไม่มองนี่ imagination เจย์น่ากลัวกว่ามองอีกนะ)
ในที่สุด เจย์ก็ฮึดครับ เลยบอกพี่พยาบาลเสียงดังฟังชัดว่า
"ขออีกแป๊บนะพี่ ทำใจไม่ได้" 555
กลัวจริงๆครับนาทีนั้น คือไม่ได้ตั้งใจจะเจาะเลือดไง
แล้วกลัวเข็มมากกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่คนข้างๆนี่บอกว่าเจาะเถอะ จะได้รุว่าเป็นอะไรไหม
มีการบอกด้วยว่า เจาะแทนได้ เจาะไปแล้ว
(ผู้หญิงคนนี้ แกร่งน่านับถือมากครับ)
พอถึงเวลาเจาะ พี่พยาบาลก็ตบๆแขน
เจย์ยื่นแขนขวาไปก่อน เพราะแขนซ้ายเดี้ยงอยู่
สรุปว่า หาเส้นไม่เจอ - -"
ก็เลยยื่นแขนซ้ายไปแทน ก็จัดการหาเส้นกันใหม่
เพิ่งถ่ายเมื่อวาน อ้วนขึ้นไหมเนี่ย - -"
ในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึงงงงงงง
เข็มจิ้มลงไปในเนื้อแล้ว เสียงดัง.... (จะมีเสียงได้ไงเล่า)
ทันทีที่เข็มแทรกผ่านแขนเล็กๆที่สั่นเทา (ดูมันเว่อร์ๆแมะ??)
เจย์ก็เริ่มบรรเลงเลยครับ เคาะเท้ากับพื้นเป็นจังหวะ
พร้อมแหกปากไปเรื่อยว่า ว๊ากกกกกกกก
และตามด้วยประโยคว่า "พอแล้วคร้าบบบบบบ"
"เลือดหมดตัวแล้วคร้าบ เสร็จได้แล้วครับ"
แทนที่จะเสร็จ ที่จะหยุด กลับกลายเป็นว่า
หาเส้นเลือดไม่เจอ!!!!!!!
แล้วพี่จิ้มลงไปก่อนทำม๊ายยยยยยยยยยยยย
พี่เค้าก็เอาแต่พูดว่า จะเสร็จแล้วๆ อีกนิดเดียว
แต่คือ เจย์รุอยู่แล้วแหละ ว่ามันต้องเกิดอะไรซักอย่าง
เพราะเล่นจิ้มลงไปเรื่อยๆๆๆๆ เรื่อยยยยยย
จะเอาให้ทะลุแขนเลยไหมครับพี่ เจ็บจะตายแล้ว(อันนี้คิดในใจ 55)
คนข้างๆก็กดหัวเจย์เอาไว้ ไม่ให้มอง กลัวเจย์รุตัวมั้ง
แล้วพี่พยาบาลก็เรียกอีกคนมาช่วยเจาะ
เจย์เลยบอกพี่เค้าไปเลยว่า
"เอาออกมาก่อน ค่อยจิ้มใหม่ก็ได้ จะตายอยู่แล้ววว"
แต่ไม่ฟังครับ ดันเข็มหาเส้นเลือดเจย์ต่อไป - -"
ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลง พร้อมกับเลือด 1 หลอด T^T
เจาะเลือดเจ็บมากกกกกกกกกกกกก
ลำพังแค่กลัวเข็มนี่ก็จะตายแล้ว นี่เจ็บอีก ปวดใจมากครับ
ออกมา หน้านี่แบบ พอกันที ไม่เชื่อแล้ว หลอกเค้ามาเจาะเลือด
เหมือนตอนช่วงปีใหม่เลย ล็อคหัวเค้าให้พี่พยาบาลเจาะเลือด
สะเทือนใจมาก กระซิกๆๆๆ
แต่ก็ ดีแล้วแหละที่เจาะ จะได้รุว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก ^^
ก็จบไปกับเรื่องเจาะเลือดของเจย์ครับ
แต่ไหนๆก็ มาอัพทั้งที (อุตส่าห์ clear งานจนเสร็จ)
ก็ขอต่อเรื่องพี่หมีน้อยหน่อยนะครับ
ตอนนี้ พี่หมีน้อยมีน้องแล้ววววว
น้องของพี่หมีน้อยครับ
ชื่อง่ายมาก ชื่อ น้องหมีน้อย 555
แต่เจย์กะคนข้างๆเรียกสองคนนี้ว่า
เมี่ยงน้อย กับ นิ่มน้อย = พี่หมีน้อย กับ น้องหมีน้อย
ที่มาที่ไปของน้องหมีน้อยนี่ ไม่ใช่จะมากันง่ายๆนะครับ
คือเมื่อวันอังคาร ที่ลานล่างตึกมีกิจกรรมของอะไรซักอย่างเนี่ย
เค้ามาจัดงานขายของพวกเจลทาหน้าไรเนี่ยแหละ
ระหว่างที่เดินผ่านหลังจากกินข้าวเสร็จ
MC เค้าก็ประกาศว่า มีใครอยากได้ตุ๊กตาหมีไหมคะ
พี่ที่มาด้วยกันเลยหันมาถาม ใครจะเอาหมีมั่ง
เจย์เลยยกมือพูดเสียงดังว่า "ผมเอา"
MC ได้เหยื่อ ไม่รอช้า ปรี่มาหาเลย แล้วบอกว่า
"เล่นเกมส์ก่อนค่ะพี่" บลา บลา บลา
เจย์เลยตอบอย่างไม่รอช้าว่า "ไม่เล่น" 555
แต่ไม่ทันครับ พี่ข้างหลังผลักไปยืนเรียบร้อย - -"
ก็เลยเล่นเกมส์กับพี่อีกสองคน
ได้รางวัลเป็นน้องหมีน้อยนี่แหละครับ ^^
น้องตัวโตกว่าพี่อี๊กกกก
ก็มอบให้คนข้างๆไป แต่ทุกวันนี้ ทั้งเมี่ยงน้อยและนิ่มน้อย
ก็อยู่กับเจย์ทุกวันแหละ 555
โดยคนข้างๆบอกว่า เค้านอนหลับได้โดยไม่ต้องมีลูกๆ
แต่เจย์ต้องนอนกอดลูก ถึงจะหลับ - -"
ลูกเลยนอนกับเจย์ทุกคืนเลยยยยยยย
สรุปว่า นี่ให้เค้าไป หรือเอาไว้เองเนี่ย เอิ๊กๆๆ
(เจย์ตั้งใจให้จริงๆน๊า เพราะเจย์มีจูจิอยู่แล้วนี่นา)
(แต่ทุกวันนี้ จูจิงอน เพราะกอดลูกมากกว่า - -")
P.S.
- เจาะเลือด เจ็บ และน่ากลัว บรึ๊ยยยยยย
- คนข้างๆ = คนข้างใจ
- ฮิ้ววววววว แซวตัวเองอีกละ
- วันนี้ฟังเพลง ไปเอาคืนมาเลยนะ เกินสิบรอบแล้ว
- ถูกใจตั้งแต่ดนตรี
- มาฟังเนื้อเพลง เห้ย มันน่ารักดีแหะ
- คนข้างใจเค้าส่งมาให้ฟัง ^^
- พกโทรศัพท์สามเครื่อง และอยากได้ iphoneอีก (แต่มันแพงอ่ะ)
- แต่ตอนนี้ กำลังจะซื้อกล้อง DSLR ตัวแรกแล้วครับ
- แต่ๆๆ ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าเอาตัวไหนดี T^T
- Canon 50D 500D 550D หรือจะเล่น Nikon D90 D5000
- ปวดใจจี๊ดดดดดดดด กำเงินมือเปียก ตัดสินใจไม่ได้
- ซื้อกล้องปุ๊บ คงไม่ได้ถ่ายที่สวยๆ เพราะไม่เหลือเงินไปเที่ยว
- เศร้านะชีวิตพนักงานกินเงินเดือน T^T
- แต่ภูมิใจจัง (เอ่อ รีบภูมิใจไปไหม ยังไม่ได้ซื้อ - -")
- ถ้าเล่น Canon เตรียมถอยเลนส์อีกตัวแล้ว (เอ่อ ยังไม่ได้ซื้อกล้อง)
- ถ้าเล่น Nikon ไม่ซื้อเลนส์ มันแพง 555 (เห้ย ซื้อกล้องก่อนค่อยคิด)
- ต้องเผื่อเงินซื้อกระเป๋า ขาตั้งกล้อง battery grip (ซื้อกล้องก่อนเห๊อ)
- ถึงจุดจะซื้อ จะซื้อตัวไหนดี คิดไม่ออกกกกกกกก
- เดี๋ยวเงินได้หมดไปกับอย่างอื่นแหง กรี๊ดดดดด (ก็ซื้อซักทีจิ)
- เพิ่งจ่ายค่ารถที่เอาไปเช็คระยะมา 6 พัน
- ปวดใจกับเงินที่เสียไป แถมทำน้ำเข้าเครื่องเจย์อีก ปวดตับเลยทีนี้ - -"
- ไปวีนด่าที่ศูนย์ซะยกใหญ่ ช่างไม่ชำนาญ แล้วเอามาทำรถเจย์ทำไม
- โกรธ แต่ก็อภัยไป ก็ทำไรไม่ได้นี่นา - -"
- ไปและครับ แล้วพบกันใหม่คร้าบบบบบบ
- พบกันเร็วๆนี้แหละ อยากเขียนเรื่อง คนในฝัน (ดูอารมณ์ก่อนนะ)
ส่งท้ายด้วยภาพนี้ครับ ถ่ายที่ MRT จตุจักร เมื่อปี... 2007 มั้งครับ
หน้านี้อัพเร็วมากกก ,,
ReplyDeleteไปทำงานต่อละ ^^
ตามประสาคนใช้นิค เลยจะแนะนำว่า...
ReplyDeleteรุ่นที่ต่ำว่า D90(นับเป็นรุ่นกลางกึ่งโปรฯ)อย่าเล่น ถ้าไม่อยากเสียดายตังค์ทีหลัง
ไม่ใช่ไม่ดี
แต่เท่าที่ลองใช้มาแล้ว ทั้งรุ่น เล็ก กลาง ใหญ่
รุ่นกลางขึ้นไปถึงจะตอบสนองความต้องการได้
เพราะยิ่งถ่าย ก็ยิ่งเก่ง
ยิ่งเก่ง ก็ยิ่งอยากจะปรับนู่น ปรับนี่ ตามใจเรา โดยไม่สนใจโหมดออโต้..
ซึ่งรุ่นเล็กเนี่ย มีโหมดแมนนวลก็จริง แต่ก็มีข้อจำกัดกว่าแมนนวลในรุ่นใหญ่
ปล.แนะนำอีกข้อ ไม่ว่าใครถามก็จะแนะนำแบบนี้
คือ ถ้าไม่ขี้เกียจนัก ก็ซื้อบอดี้ ไม่เอาเลนส์คิท แล้วเลือกซื้อเลนส์ที่เราชอบ ...
...
ส่วนหนอนนั้นไซร้ รอท่านต่อไปมาแนะนำเด้อ
เพราะไม่เคยใช้ เลยเปรียบเทียบให้บ่ได้..
..
สงสัยอะไรก็ถามได้นะ เผื่อช่วยได้..
..
ฟิ้ววววว...
ราคาอาจสูงอีกหน่อย แต่คุณภาพดี
หึยยยย..
ReplyDeleteไอ้บรรทัดสุดท้าย มันควรต่อจาก
..คือ ถ้าไม่ขี้เกียจนัก ก็ซื้อบอดี้ ไม่เอาเลนส์คิท แล้วเลือกซื้อเลนส์ที่เราชอบ ...
ราคาอาจสูงอีกหน่อย แต่คุณภาพดี
I am Nikon (D90),
ReplyDeleteand am agree with the above comments.
if you like taking portrait (like me), I suggest buying a camera body + a 50mm f1.4G lens. I use this lens most of the time that I'm out photoshooting.
ReplyDeleteFor the other utility lens, K.Tonkla may have a better suggestion. (I use 18-105 kit lens)
ถูกต้องนะคร๊าบบบ...
ReplyDeleteถ้าชอบ portrait ก็ 50 โลด หรือพวก 85
เพราะเลนส์ฟิกซ์ หรือทางยาวโฟกัสเดียวพวกนี้
จะมีรูรับแสงที่กว้าง ทำให้เกิดชัดตื้น หรือละลายฉากหลังได้ดี
แต่ถ้าชอบแบบเอนกประสงค์เลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วโลก
ก็ลองหา 18-200 ดู ครอบคลุมมาก สะดวกสบาย คุณภาพไม่ขี้เหร่นัก
...
หลายคนชอบใช้เลนส์ซูม เพราะสะดวก ไม่ต้องพกเลนส์เยอะ
หลายคนก็ชอบเลนส์ฟิกซ์ แล้วต่อช่วงเอา
ตั้งแต่เลนส์ไวด์ ยัน เลนส์ เทเล ก็ประมาณ 4-5 ตัว
ข้อเสียคือต้องพกเลนส์หลายตัว
หนัก เป็นภาระ แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพที่ดีกว่า อย่างเห็นได้ชัด
...
ตอนแรกนี่กะจะถอย canon+เลนส์ KIT
ReplyDeleteแล้วซื้อเลนส์ 50mm f/1.8 อีกตัวไว้ถ่าย portrait
มาอ่าน comment แล้วแบบ nikonnnnnnnn
ห่วงเรื่องเดียวเลยกะนิกร
ห่วงเรื่องศูนย์ที่มีแต่คนด่า เพราะซื้ออะไรชอบเจอ jackpot
คิดไม่ตกอีกหนึ่งวัน
แง๊ๆๆ
อย่าเพิ่งเทใจให้ใคร
ReplyDeleteเพราะที่บอกไปตอนแรก ไม่ได้เน้นจุดเด่นจุดด้อยแบบแบ่งค่ายเลย
ทั้งสองค่าย ทำได้ดีพอกัน อุปกรณ์เสริมหล่อ ก็มีเหมือนๆกัน
ที่เน้นคือ ระดับความโปรฯของกล้องแต่ละรุ่น
อยากให้เลือกตรงนี้เป็นหลัก
แต่ที่คุยเรื่องนิคเพราะใช้นิคไง
ส่วนเรื่องหนอน เจย์ต้องหาข้อมูลเปรียบเทียบเอาเองนะ
เรื่องศูนย์ก็อย่างที่เจย์ว่าแหละ
แต่เราไม่เคยเจอ เพราะที่ทำงานเราเรียกใช้บริการเมื่อไหร่
ก็ประทับใจทุกที มารับมาส่งของถึงที่ โทรตามได้ทุกเวลา
ต่อสายคุยกับช่างยังได้
แต่ก็เป็นเพราะใช้บริการกันมานานเลยคุยง่าย
คราวที่แล้วซ่อม D100
เราแจ้งอาการไป แต่ช่างหาเหตุไม่เจอ
พอกลับมาก็เป็นอีก และด้วยระบบราชการ
ออกใบจ้างซ่อม ออกจำนวนเงินแล้ว แก้ไขไม่ได้
แต่จำเป็นต้องซ่อม เค้าเลยยกประโยชน์ให้เราตั้งสองหมื่น
แต่ถ้าเข้าไปแบบคนธรรมดา ไม่ใช่หน่วยงาน
ก็คงมีปัญหาแบบที่คนอื่นเจอแหละ
...
แล้วก็อุปกรณ์เสริมต่างๆ หนอนทำได้ราคาถูกกว่า
แต่ตรงนี้ต้องชั่งใจเอาเอง ว่าถูกกว่าเพราะอะไร
เพราะยอดขายเยอะกว่า เพราะวัสดุด้อยกว่า เพราะคุณภาพต่ำกว่า ฯลฯ
อันนี้ไม่ฟันธง เพราะไม่ได้ใช้ เดี๋ยวคนใช้หนอนจะมาด่าเอา
...
ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ
ลองไปจับดูทั้งสองค่าย
ลองปรับนู่น ปรับนี่
ดูว่าอันไหนใช้งานง่ายกว่ากัน
สัดส่วนอันไหนเหมาะมือเรามากว่ากัน
ซึ่งวิธีนี้ จับแค่ครั้งเดียว แปปเดียว มันไม่รู้สึกนะ
ต้องหลายครั้งหน่อย
หรือถ้ามีทั้งสองตัวมาวางข้างกัน แล้วเปรียบเทียบยิ่งดี
...
อีกเหตุผลคือ มีเพื่อนใช้อยู่ค่ายไหน
เพราะอุปกรณ์หยิบยืมกันได้
...
สุดท้าย..
ห้องกล้อง ในพันทิพ
มีคำตอบให้เจย์ทุกอย่างที่อยากรู้
การเลือกกล้องเปรียบเทียบสองค่ายนี้ กระทู้เพียบ..
...
อีกสุดท้าย...
ถ้าใช้โฟโต้ชอปหรือโปรแกรมแก้ไข ตกแต่งภาพอื่นๆเป็น อะไรก็ง่ายขึ้น
ขอแค่มีเลนส์เจ๋งๆ แล้วเลือกใช้ให้เหมาะกับงานเป็นพอ
...
สู้ๆ^^
มาย้ำอีกที ..
ReplyDeleteควรเลือกกล้องที่รุ่นกลางขึ้นไปนะ
พวก นิคคอน D90 หรือ แคนนอน 50D ขึ้นไป
แล้วจะไม่เสียดายตังค์ทีหลัง...
..
ส่วนเลนส์ก็ตามสะดวก
คิทก็ไม่ขี้เหร่นัก
แค่มันไม่เต็มอิ่ม
แล้วเพิ่ม 50 อีกตัวก็โอ...
...
ปล.อยู่ๆไปเดี๋ยวมันก็ออกลูกออกหลานเองแหละ
และส่วนใหญ่ลูกหลานที่ออกมา
มักตัวโตกว่า และค่าตัวแพงกว่า ..อิอิ
...
เพราะไปอ่านห้องกล้องพันทิพนี่แหละคร้าบ
ReplyDeleteคิดไม่ตก อันไหนๆก็ดีไปหมด
ปวดใจ เลือกไม่ได้ งี๊ดๆๆ
งั้นก็...
ReplyDeleteชอบตัวไหน ก็เลือกตัวนั้น
เรื่องความยากง่าย ในการใช้ มันเรียนรู้กันได้
ปัญหาที่จะเจอนั้น เรากลัวเพราะยังไม่เคยเจอตะหาก
พอเจอแล้ว เดี๋ยวก็รู้เอง ว่าจะต้องแก้ยังไง
สุดท้ายแล้ว เลือกตัวไหนมาก็ไม่เสียดายหรอก
เพราะคนเรามักหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสมอ...
ได้อย่าง ก็เสียอย่าง
อยู่ๆไปก็รักกันเองแหละ...
โดยส่วนตัวก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
ก็เลยใช้วิธีหาข้อมูลเยอะๆ ไว้เป็นความรู้
แล้วก็โยนข้อมูลทุกอย่างไว้ข้างหลัง
เลือกตัวที่ชอบ หน้าตาดี รูปลักษณ์งาม วัสดุทนทาน แค่นั้นเอง
พอได้มาแล้ว มาลองใช้ ความรู้สึกคือ กล้องไหนๆก็เหมือนกันแหละ
ขอแค่ถ่ายติด ไม่งอแง ที่เหลืออยู่ที่ฝีมือ
อารมณ์แบบ จะสั่งข้าว แต่ไม่รู้จะกินไร
สุดท้ายก็ อะไรก็ได้ อิ่มก็พอ...
เดี๋ยวค่อยหาขนมกินต่อ...ประมาณนั้น
...
Info from my side:
ReplyDeleteThis Nikon D90 may be my 10th camera (I think or more than that). Previously I had Canon, Sony, Olympus and Fuji (a mix of compacts and DSLR). Based on my experience, I have made my decision that Nikon is the best.
I bought this one and lens in the UK, all parts were made in Japan, never have any problem in the past year.
Another friend of mine who is a semi-pro use Pentax and his photos look like ones that we see in Travel magazines. He has so many lenses and he said in term of price, Pentax is more affordable. When Pentax's price dropped, they dropped more than 50%, while Canon's and Nikon's prices remain quite stable over years.
You should pick one model each of Nikon and Canon based on your research. Then go to the shop, have a hand on both of them, the right one will find you. You'll know what's the right one when your heart pounds so heavily when you hold it. (Siaw-mai)
Good luck with your decision.
^
ReplyDelete^
^
ไม่เสี่ยวครับพี่
เพราะหลายๆความเห็น หลายๆคนที่คุยด้วย
บอกเหมือนกันว่าจับดู แล้วจะรุว่าจะเอาตัวไหน
แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ลองจับเลย
plan ไว้ว่า พรุ่งนี้จะไปจับดูก่อน
ถ้าจับแล้วตัดสินใจได้ จะถอยมาเลย
ลังเลมากเลยครับตอนนี้ ตอนแรกนี่ยังไงๆก็ canon
แต่เห็นสีจากรุป nikon แล้วบอกตรงๆ หวั่นไหวเลย
หาข้อมูลดูแล้ว เค้าบอกว่า canon เร่งสีได้จาก picture style
แต่เจย์ก็ยังคงเห็นว่า สี nikon แหล่มโดยตัวมันเอง
คิดมาเป็นเดือนว่าจะเอา canon ตัวไหน
ตอนนี้คิดมาจะ 2 weeks แล้วว่าจะเอาค่ายไหน (กว้างกว่าเดิม)
ยิ่งคิดยิ่งเลือกไม่ได้ ไปลองของจริงเลยดีกว่า 555
ยังไงก็ขอบคุณพี่ยูริกับคุณต้นกล้าสำหรับข้อมูลมากๆนะครับ
ไว้ถอยกล้องเมื่อไหร่ จะมาบอกกล่าวครับผม
ให้ข้อมูลเรื่องกล้องกะเค้าไม่ได้ เพราะโง่เรื่องนี้
ReplyDeleteขนาดซื้อ 450D มาเล่น ยังเล่นไม่เป็น สุดท้ายต้องขายทิ้ง
แล้วซื้อ G10 มาแทน ... ง่ายและสวยถูกใจ 555
ดีใจด้วยที่หายป่วยแล้ว แล้วก็ไม่เจอโรคอะไรร้ายแรง
ต่อไปก็รักษาสุขภาพด้วย ออกกำลังกายบ่อยๆ
เอาไว้ว่างๆ พี่จะไปออกรอบด้วยนะ
อยากเยาะเย้ยอีกหง่ะ
คิก คิก